แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยมีจดหมายถึงบุคคลผู้หนึ่งขู่ให้เข้าเป็นสมาชิกสมาคมที่จำเลยตั้งขึ้นอันมีหลกการว่าชักชวนให้ประชาชนหรือรัฐทำการล้มล้างระบอบการปกครองแห่งสยามปัจจุบัน ดังนี้จำเลยยังไม่มีผิดตาม ม.104 แห่งกฎหมายอาญา เพราะจำเลยมิได้กระทำการให้ปรากฎแก่คนทั้งหลาย,
ลัทธิคอมมิวนิสม์ตามหลักการของเลนินเป็นประการใดนั้นเป็นข้อที่โจทก์จะต้องนำสืบ เพียงแต่จำเลยเขียนจดหมายกล่าวว่าสมาคมนี้ทำการเผยแพร่ลัทธิคอมมิวนิสม์ตามหลักการของเลนินเท่านั้น ยังไม่พอที่ถือว่าลัทธิที่จำเลยกล่าวถึงเป็นลัทธิคอมมิวนิสม์ตามวิเคราะห์ศัพท์แห่งพ.ร.บ. ข้างต้น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องจำเลยหาว่าสนับสนุนส่งเสริมลัทธิคอมมูนิสม์ด้วยลายลักษณอักษรโดยเจตนาจะเปลี่ยนแปลงประเพณีการปกครอง จำเลยได้มีจดหมายถึง อ. บังคับให้เข้าเป็นสมาชิกและปฏิบัติการตามหลักการคอมมิวนิสม์ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.คอมมิวนิสม์และกฎหมายอาญา ม.๑๐๔
ศาลฎีกาตัดสินว่าตามเอกสารต่าง ๆ คงรวมความได้ว่าจำเลยจดหมายขู่ อ.เกี่ยวกับนามสมาคมอันหนึ่งซึ่งตั้งขึ้นว่าสมาคมหนุ่มสยาม สมาคมนี้ทำการเผยแพร่ลัทธิคอมมิวนิสม์ตามหลักการของเลนิน แต่หลักการของเลนินนั้นจะมีอย่างไรโจทก์หาได้พิสูจน์ในสำนวนไม่ ตามกฎหมายไทยได้มีวิเคราะห์ศัพท์คอมมิวนิสม์ไว้แล้ว เมื่อจำเลยกล่าวถึงหลักการของเลนินลอย ๆ และโจทก์มิได้นำสืบว่าหลักการของเลนินมีประการใด-แล้ว จะวินิจฉัยว่าลัทธิที่จำเลยกล่าวถึงเป็นลัทธิคอมมิวนิสม์ตามกฎหมายไทยไม่ได้ ส่วนในจดหมายฉะบับที่จำเลยอธิบายหลักการของสมาคมหนุ่มสยามว่าชักชวนให้ประชาชนหรือรัฐทำการล้มล้างระบอบการปกครองแห่งสยามปัจจุบันนี้ จะสันนิษฐานว่าจำเลยมุ่งหมายจะล้มล้างระเบียบการสมาคมที่มีอยู่โดยใช้กำลังบังคับเพื่อโอนที่ดินทรัพย์และกิจการค้าใหญ่ทั้งหมดจากการที่เอกชนเป็นเจ้าของมาให้รัฐหรือชุมนุมชนแทนนั้นหาได้ไม่คำว่าใช้กำลังบังคับในที่นี้ไม่หมายถึงขู่ให้ใครเข้ามาเป็นสมาชิกหรือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของสมาคมของจำเลย แต่หมายความว่าใช้กำลังบังคับเพื่อให้ที่ดิน ฯลฯของเอกชนมาเป็นของรัฐ และจะลงโทษจำเลยตาม ม.๑๐๔ ที่แก้ไขใหม่ก็มิได้ เพราะจำเลยมิได้ทำให้ปรากฎแก่คนทั้งหลายและยังไม่เข้าถึงขีดพยายามตาม ม.๑๐๔ ด้วย ส่วนที่ขอให้ลงโทษตาม ม.๒๖๘ นั้น ศาลชั้นต้นมิได้วินิจฉัยโจทก์ก็มิได้คัดค้าน ผู้เสียหายก็ไม่ได้ร้องทุกข์จึงไม่มีทางลงโทษจำเลยได้ ศาลอุทธรณ์ปล่อยจำเลยชอบแล้ว ยืนตาม.