แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เสมียนสถานีรถไฟ มีหน้าที่จำหน่ายตั่วรถไฟแก่ผู้โดยสาร และมีหน้าที่รับกากตั่ซจากคนการที่เก็บจากผู้โดยสาร แล้วทำบัญชีรวบรวมกากตั๋วส่งกองบัญชีกรมรถไฟเป็นจำวัน จำเลยกลับเอากากตั่วที่ได้รับมอบจากคนการนั้นมาจำหน่ายแก่ผู้โดยสาร แล้วเอาเงินที่ได้จากการจำหน่ายกากตั่วนั้นไว้เป็นประโยชน์แก่จำเลยเอง ดังนี้ย่อมเป็นความผิดตามก.ม.ลักษณะอาญามาตรา132.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นเจ้าหนักงานในตำแหน่งเสมียนสถานีรถไฟอุตรดิตถ์ มีหน้าที่จำหน่ายตั่วโดยสารให้แก่ผู่โดยสาร จำเลยได้บังอาจใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ หาประโยชน์อันมิควรได้ไว้เป็นอาณาประโยชน์ของตน โดยจำเลยเอาตั่วรถไฟที่ใช้แล้ว ซึ่งผู้โดยสารคนอื่นซื้อจากสถานีเด่นไชยถึงสถานนีวังกะพี้ แต่มาลงเสียดที่สถานนีอุตรดิตถ์ขายต่อให้แก่ผู้โดยสารอีกต่อหนึ่ง จำนวน ๕ ตั่ว ราคาตั๋วละ ๒๐ สตางค์ รวม ๑ บาท แล้วจำเลยเอาเงิน ๑ บาท เป็นโยชน์ตนเสีย ฯลฯ ขอให้ลงโทษตาม ก.ม. ลักษณะอาญามาตรา ๑๓๒.
จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยผิดตามฟ้องให้จำคุกจำเลย ๑ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยเป็นเสมียนประจำสถานีรถไฟอุตรดิตถ์มีหน้าที่ขายตั๋วไฟให้แก่ผู้โดยสาร และรับกากตั่วจากคนการที่เก็บจากผู้โดยสารแล้ว จำเลยรวบรวมกากตั่ว ส่งกองบัญชีกรมรถไฟประจำวัน ในวันเกิดเหตุระหว่างที่จำเลยขายตั๋วแก่ผู้โดยสาร จำเลยได้เอากากตั๋วที่ใช้ไม่ได้ดังกล่าวแล้ว ไปจำหน่ายแก่ผู้โดยสาร
ศาลฎีกาเห็นว่า การกระทำจำเลยดังกล่าว เป็นการเสื่อเสียประโยชน์ของกรมรถไฟและของผู้โดยสาร จำเลยย่อมมีผิดตามกฎหมายที่โจทก์อ้าง จึงพิพากษากลับศาลอุทธรณ์บังคับคดีลงโทษจำเลยตามศาลชั้นต้น