คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2799/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้คู่ความฟังเมื่อวันที่ 28กุมภาพันธ์ 2526 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของเดือน คู่ความย่อมฎีกาได้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2526 เพราะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 158 เริ่มนับอายุฎีกา 1 ในวันรุ่งขึ้นคือวันที่ 1 มีนาคม ซึ่งเป็น วันต้นของเดือน และครบ 1 เดือนตามปฏิทินในวันที่ 31 มีนาคมจำเลยยื่นฎีกาในวันที่ 29 มีนาคม 2526 จึงอยู่ภายในกำหนด1 เดือนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 247
(อ้างคำสั่งคำร้องของศาลฎีกา ที่ 37/2484)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ ๕๓๑ จำเลยอาศัยอยู่ในที่ดินแปลงนี้ โจทก์บอกกล่าวให้จำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินแต่จำเลยไม่ยอมออก ขอบังคับให้จำเลยและบริวารขนย้ายสิ่งของสัมภาระออกไปจากที่ดินโฉนดเลขที่ ๕๓๑ ห้ามจำเลยและบริวารเกี่ยวข้อง
จำเลยให้การว่า ที่ดินตามฟ้องเป็นของจำเลย โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยและบริวารขนย้ายสิ่งของสัมภาระออกจากที่ดินโฉนดเลขที่ ๕๓๑
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีนี้ ให้คู่ความฟังเมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๖ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของเดือนคู่ความย่อมฎีกาได้จนถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๒๖ เพราะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๕๘ เริ่มนับอายุฎีกา ๑ ในวันรุ่งขึ้นคือวันที่ ๑ มีนาคมซึ่งเป็นวันต้นของเดือน ตามปฏิทินในวันที่ ๓๑ มีนาคม ดังนั้น เมื่อจำเลยยื่นฎีกาในวันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๒๖ จึงอยู่ภายในกำหนด ๑ เดือน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๔๗ ทั้งนี้ ตามนัยคำสั่งคำร้องของศาลฎีกาที่ ๓๗/๒๗๘๔
พิพากษายืน

Share