แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
มาตรา 70 แห่ง พ.ร.บ.การประมง 2490 บัญญัติว่า “เครื่องมือทำการประมงที่ได้มีประกาศตามความในมาตรา 32 ห้ามมิให้บุคคลใดใช้โดยเด็ดขาดนั้น ถ้านำมาใช้ทำการประมงในที่จับสัตว์น้ำ ให้ศาลริบเครื่องมือนั้นเสีย ” นั้น ถ้าปรากฎว่าเจ้าของเครื่องมือนั้นมิได้รู้เห็นในการกระทำผิดด้วย ก็จะไปริบเครื่องมือนั้นไม่ได้ ต้องคืนแก่เจ้าของไปเพราะการริบเป็นโทษอย่างหนึ่งจะไปลงโทษเอาแก่เจ้าของซึ่งเป็นผู้ไม่ได้กระทำผิดย่อมไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องจำเลยรับสารภาพฟังได้ว่าจำเลยสมคบกันใช้อวนซึ่งไม่ได้เสียค่าอาชญาบัตรเป็นเครื่องมือทำการประมงจับสัตว์น้ำจืดในลำคลองหนองหม้อ อันเป็นที่จับสัตว์น้ำในฤดูปลามีไข่ เป็นการฝ่าฝืนประกาศรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตราธิการ เรื่องกำหนดปลามีไข่ ฯลฯ
ก่อนศาลพิพากษา นายช้วนเกตุถาวร ยื่นคำร้องว่า เครื่องมือจับสัตว์น้ำของกลางเป็นของนายช้วน ๆ ไม่รู้เห็นในการกระทำผิดด้วย ขอให้ศาลคืนให้แก่นายช้วน
ศาลชั้นต้นไต่สวนตามคำร้องแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีผิดตามพ.ร.บ. การประมง พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๓๒ -๖๔–๖๕ ให้ปรับจำเลยคนละ ๓๐ บาท เงินของกลางที่ได้จากการขายปลาให้ริบ ของกลางอื่น ๆ ปรากฎว่าเป็นของนายช้วนผู้ร้องซึ่งไม่รู้เห็นในการกระทำผิดให้คืนนายช้วน
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาว่าต้องริบตามมาตรา ๗๐ แห่งพ.ร.บ.การประมง ๒๔๙๐
ศาลฎีกาเห็นว่าตามพ.ร.บ.การประมง พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๗๐ ไม่ได้บัญญัติไว้โดยตรงว่าให้ริบแม้จะเป็นของผู้อื่นที่ไม่รู้เห็นในการกระทำผิดด้วย และการริบทรัพย์เป็นโทษอย่างหนึ่ง จะไปลงโทษเอาแก่เจ้าของซึ่งเป็นผู้ไม่ได้กระทำผิดย่อมไม่ได้ ศาลล่างทั้งสองไม่ริบเครื่องมือชอบแล้ว พิพากษายืน