คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 279/2479

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พฤติการณ์ที่ฟังว่าเป็นบุตร์อันเกิดจากภริยาที่ชอบด้วยกฎหมาย
สู่ขอหญิงมาเป็นภริยาน้อยโดยเสียเงินค่าเครื่องเรือนแลมีพิธีแต่งงาน การอยู่กินต่อกันแม้จะเป็นครั้งคราว แต่ก็เป็นไปโดยเปิดเผย ดังนี้ ต้องฟังว่าหญิงนั้นเป็นภริยาที่ชอบด้วยกฎหมายบุตร์ที่เกิดด้วยหญิงนั้นจึ่งมีสิทธิใช้นามสกุลของบิดาได้โดยชอบด้วยกฎหมาย

ย่อยาว

เหตุจะเกิดคดีนี้ได้ความว่าจำเลยจะทำการสมรส จำเลยอ้างว่าเป็นบุตร์โดยชอบด้วยกฎหมายของพระยาพหลโยธิน(นพ พหลโยธิน) จำเลยจึงมีสิทธิใช้นามสกุล”พหลโยธิน” ญาติทางฝ่ายชายจึงมาสอบสวนโจทก์ ๆ ปฏิเสธว่า ไม่รู้จักจำเลยจึงได้เกิดฟ้องร้องคดีนี้ขึ้น โดยโจทก์หาว่าจำเลยบังอาจใช้นามสกุลพหลโยธินโดยไม่มีสิทธิอย่างใดเป็นการเสียหายแก่โจทก์ จึงขอให้ห้ามจำเลยไม่ให้ใช้นามสกุล “พหลโยธิน” ต่อไป
ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยเป็นบุตร์นางลำจวนเกิดด้วยพระยาพหลโยธิน นางลำจวนผู้นี้เป็นบุตร์ขุนกลางคดีกรมการเมืองราชบุรี เมื่อครั้งพระยาพหลโยธินไปรับราชการที่จังหวัดราชบุรี ได้ไปพูดจาสู่ขอนางลำจวนเป็นภรรยาต่อบิดามารดาของนางลำจวน โดยให้เงิน ๘๐๐ บาทเป็นค่าเครื่องเรือนแลยังได้ทำพิธีไหว้ผี การอยู่กินกับนางลำจวนนี้พระยาพหลโยธินได้ไปมาหาสู่กับนางลำจวนเป็นครั้งคราว บางครั้งก็พักนอนที่บ้านบิดามารดานางลำจวน บางครั้งก็พามาค้างนอนที่บ้านพักกรมทหารแต่ก็คงเป็นไปโดยเปิดเผยในจังหวัดราชบุรี จะปิดบังบ้างก็ฉะเพาะคุณหญิงพหลโยธินแลญาติบางคนเท่านั้น แลปรากฎว่าเมื่อคราวนางลำจวนจะคลอดบุตร ซึ่งเป็นเวลาขณะที่พระยาพหลฯไปราชการต่างประเทศ ยังได้ฝากฝังนายทหารให้ช่วยเหลือเวลาคลอดบุตร เมื่อกลับจากประเทศญี่ปุ่นได้มาเยี่ยมที่บ้านนางลำจวนแลตั้งชื่อจำเลยว่า”เนิน” ในตอนหลังจากนี้ปรากฎว่าพระยาพหลโยธินมิได้ไปมาหาสู่กับนางลำจวนอีกเลย แลยังได้เคยกล่าวกับพระยาพหลพลพยุหเสนาเป็นเชิงไม่รับรองบุตร์ภริยา ๒ คนนี้
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าตามพฤติการณ์นางลำจวนย่อมเป็นภริยาของพระยาพหลโยธินโดยชอบด้วยกฎหมาย แลเมื่อมีบุตร์ด้วยกันแล้ว บุตรก็ย่อมเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยย่อมมีสิทธิใช้นามสกุลพหลโยธินอันเป็นนามสกุลของบิดาได้ตาม พ.ร.บ.ขนานนามสกุล ม.๕-๑๗ การที่ปรากฎในตอนหลังว่ามิได้ไปมาหาสู่กันเช่นเคยจนถึงกับพระยาพหลโยธินกล่าวไม่รับรอง ก็ไม่เป็นการเปลี่ยนฐานะของจำเลยซึ่งเคยเป็นบุตร์ที่ชอบด้วยกฎหมายให้กลับกลายเป็นบุตรไม่ชอบด้วยกฎหมายต่อไป
ส่วนในข้อที่ศาลล่างวินิจฉัยถึงข้อที่ว่าจำเลยเป็นบุตร์ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่นั้น ซึ่งจำเลยว่าเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นนั้น เห็นว่าประเด็นที่ศาลล่างตั้งมาย่อมเป็นที่เข้าใจว่าประสงค์ถึงว่า เป็นบุตร์ชอบด้วยกฎหมาย ถ้าหากมิใช่บุตร์โดยชอบด้วยกฎหมายก็ไม่มีสิทธิจะใช้นามสกุลของบิดาได้ จึงไม่เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น พิพากษายืนตามศาลแพ่งว่าจำเลยมีสิทธิใช้นามสกุลพหลโยธินได้ ให้ยกฟ้องโจทก์

Share