แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
มูลคดีที่เกิดขึ้นหมายถึงต้นเหตุอันเป็นที่มาแห่งการโต้แย้งสิทธิอันจะทำให้เกิดอำนาจฟ้องร้องตามสิทธินั้น โจทก์ฟ้องโดยอาศัยเหตุที่จำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์เนื่องจากจำเลยขายรถยนต์ซึ่งเป็นสินสมรสระหว่างโจทก์กับจำเลยให้แก่ผู้อื่นไปโดยโจทก์ไม่ยินยอม ได้ความว่า สัญญาซื้อขายรถยนต์เขียนที่ตำบลหนองหอย จังหวัดเชียงใหม่ แม้จะฟังว่าเป็นสถานที่ซึ่งมูลคดีระหว่างจำเลยกับผู้ซื้อได้เกิดขึ้น แต่ด้วยเหตุเดียวกันนี้หากจำเลยได้ทำสัญญาขายรถยนต์ให้แก่บุคคลภายนอกดังที่โจทก์กล่าวอ้าง ก็เป็นต้นเหตุอันเป็นที่มาแห่งการโต้แย้งสิทธิในมูลละเมิดเช่นกัน ทำให้โจทก์เกิดอำนาจฟ้องร้องตามสิทธินั้นขึ้น จังหวัดเชียงใหม่จึงเป็นสถานที่ทีมูลคดีเกิดขึ้น โจทก์ย่อมฟ้องคดีเรียกเงินอันได้จากการขายรถยนต์ที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาได้ ส่วนการซื้อขายรถยนต์อีกคันหนึ่งสัญญาจะซื้อขายหรือสัญญาวางมัดจำทำที่ตำบลหนองหลวง จังหวัดตาก โดยผู้จะซื้อเป็นคนละคนกับที่ซื้อคันแรก สัญญาทำกันคนละปี หากจะฟังว่าได้ทำสัญญาจะซื้อขายไว้ ก็เป็นเรื่องการซื้อขายที่จังหวัดตาก มูลคดีอันเป็นต้นเหตุแห่งการโต้แย้งสิทธิมิใช่เกิดที่เขตอำนาจของศาลจังหวัดเชียงใหม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เคยเป็นภริยาของจำเลย แต่ได้หย่าขาดจากกันแล้ว หลังจากวันที่โจทก์จำเลยจดทะเบียนหย่าแล้ว จำเลยได้ขายรถยนต์ 2 คันซึ่งเป็นสินสมรสให้แก่ผู้มีชื่อไปเพื่อถือเอาประโยชน์เฉพาะตนผู้เดียว โจทก์ต้องเสียเปรียบขาดประโยชน์ไปในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน ก่อความเสียหายให้แก่โจทก์ อันถือเป็นการละเมิดต่อโจทก์ อนึ่งจำเลยได้ขายรถยนต์ให้แก่ผู้มีชื่อที่ตำบลหนองหอย อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่คันหนึ่งและที่ตำบลทรายมูล อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่อีกคันหนึ่ง โดยจำเลยนำมาขายให้บุคคลทั้งสองตามภูมิลำเนาของผู้ซื้อ มูลคดีแห่งการละเมิดจึงเกิดขึ้นในเขตศาลชั้นต้น (ศาลจังหวัดเชียงใหม่) ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินค่าขายรถยนต์ให้แก่โจทก์1,525,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี จากต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเงินให้โจทก์ครบถ้วน
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกาโดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มูลคดีที่เกิดขึ้นหมายถึงต้นเหตุอันเป็นที่มาแห่งการโต้แย้งสิทธิอันจะทำให้เกิดอำนาจฟ้องร้องตามสิทธินั้น คดีนี้โจทก์ฟ้องโดยอาศัยเหตุที่จำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์ เนื่องจากจำเลยขายรถยนต์ให้แก่ผู้ซื้อไปโดยไม่ชอบ ซึ่งได้ความจากคำฟ้องประกอบสัญญาซื้อขายรถยนต์หมายเลขทะเบียน 80-1991 ตาก ตามเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 5 ว่าสัญญาเขียนที่ตำบลหนองหอย อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ แม้จะฟังว่าเป็นสถานที่ซึ่งมูลคดีระหว่างจำเลยกับผู้ซื้อได้เกิดขึ้น แต่ด้วยเหตุเดียวกันนี้ หากจำเลยได้ทำสัญญาขายรถยนต์ให้แก่บุคคลภายนอกดังที่โจทก์กล่าวอ้างก็เป็นต้นเหตุอันเป็นที่มาแห่งการโต้แย้งสิทธิในมูลละเมิดเช่นกัน อันทำให้โจทก์เกิดอำนาจฟ้องร้องตามสิทธินั้นขึ้น จังหวัดเชียงใหม่จึงเป็นสถานที่ที่มูลคดีเกิดขึ้นโจทก์ย่อมฟ้องคดีเรียกเงินอันได้จากการขายรถยนต์หมายเลขทะเบียน 80-1991 ตาก ที่ศาลชั้นต้นซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาได้ ที่ศาลชั้นต้นไม่รับฟ้องในส่วนที่เรียกเงินอันเกิดจากการขายรถยนต์คันนี้จึงไม่ชอบ อุทธรณ์ของโจทก์ข้อนี้ฟังขึ้น
ส่วนการซื้อขายรถยนต์หมายเลขทะเบียน 80-2427 ตาก นั้น ตามสัญญาจะซื้อขายหรือสัญญาวางมัดจำเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 6 สัญญาทำที่ตำบลหนองหลวงอำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก โดยผู้จะซื้อเป็นคนละคนกับที่ซื้อคันแรก สัญญาทำกันคนละปีหากจะฟังว่าได้ทำสัญญาจะซื้อขายไว้ ก็เป็นเรื่องการซื้อขายที่จังหวัดตาก มูลคดีอันเป็นต้นเหตุแห่งการโต้แย้งสิทธิมิใช่เกิดที่เขตอำนาจของศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นไม่รับฟ้องในส่วนที่เรียกเงินจากการขายรถยนต์หมายเลขทะเบียน 80-2427 ตาก จึงชอบแล้วอุทธรณ์ของโจทก์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้รับฟ้องข้อพิพาทเกี่ยวกับการเรียกเงินอันเกิดจากการขายรถยนต์หมายเลขทะเบียน 80-1991 ตาก ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำสั่งศาลชั้นต้น