แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ทนายจำเลยทราบวันนัดฟังคำพิพากษาแล้วในวันนัดได้มอบฉันทะให้เสมียนทนายมารับทราบคำสั่งศาล เมื่อศาลได้อ่านคำพิพากษาให้ฟังและบันทึกในรายงานกระบวนพิจารณาว่าให้บังคับคดีภายใน15 วัน และเสมียนทนายได้ลงชื่อในรายงานฯ นั้นแล้วถือว่าทนายจำเลยซึ่งเป็นตัวแทนของจำเลยได้ทราบคำพิพากษาและคำบังคับนั้นโดยชอบแล้ว จึงถือได้ว่าจำเลยก็ได้ทราบคำพิพากษาและคำบังคับนั้นด้วย
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องจำเลยว่าเลิกจ้างโจทก์ซึ่งเป็นลูกจ้างประจำโดยไม่จ่ายค่าชดเชย ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์แล้วได้ออกหมายบังคับคดีตามคำร้องของโจทก์
จำเลยยื่นคำร้องคัดค้านว่า ศาลแรงงานกลางออกหมายบังคับคดีและยึดทรัพย์ไม่ชอบ เพราะยังไม่ได้ออกคำบังคับแจ้งให้จำเลยทราบขอให้ยกเลิกหมายบังคับคดี
ศาลแรงงานกลางสั่งว่าจำเลยได้มอบฉันทะให้ตัวแทนมาฟังคำพิพากษาและรับทราบคำสั่งศาลตามหนังสือมอบอำนาจลงวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๒๔ จึงเท่ากับทนายจำเลยได้ฟังคำพิพากษาเองและศาลได้ออกคำบังคับไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาแล้วมีผลเท่ากับตัวความได้ทราบคำบังคับแล้วจึงบังคับคดีได้โดยไม่ต้องออกคำบังคับอีก
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ทนายจำเลยได้ทราบวันนัดฟังคำพิพากษาแล้วถึงวันนัดจำเลยได้ยื่นคำร้องขอคัดคำพิพากษาและคำพยานโจทก์เพื่อประโยชน์ในชั้นอุทธรณ์ และทำใบมอบฉันทะให้เสมียนทนายมารับทราบคำสั่งศาล ผู้รับมอบฉันทะได้ฟังคำพิพากษา และศาลได้บันทึกในรายงานกระบวนพิจารณาไว้ว่า บังคับคดีภายใน ๑๕ วัน ต่อมาจำเลยก็ได้อุทธรณ์คำพิพากษาแม้ว่าในใบมอบฉันทะระบุกิจการที่มอบมาให้ทำเพียงว่ารับทราบคำสั่งของศาล ก็เป็นที่เข้าใจได้ว่าผู้รับมอบฉันทะได้ฟังคำพิพากษาและได้รับทราบคำบังคับซึ่งศาลสั่งบังคับคดีภายใน ๑๕ วัน ตามเจตนาในใบมอบฉันทะนั้นแทนทนายจำเลยโดยชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๖๔ แล้ว ถือว่าจำเลยได้ทราบคำพิพากษาและคำบังคับโดยชอบแล้ว
ทนายความจำเลยเป็นตัวแทนของจำเลย เมื่อทนายจำเลยได้ทราบคำพิพากษาหรือคำบังคับของศาลโดยชอบ ย่อมมีผลผูกพันจำเลยตามกฎหมาย ถือได้ว่าจำเลยได้ทราบคำพิพากษาและคำบังคับนั้นแล้ว
พิพากษายืน