แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลแรงงานกลางกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่า โจทก์มีสิทธิเรียกค่าทำงานในวันหยุดจากจำเลย(คุรุสภา)หรือไม่ เพียงใดเมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้เบื้องต้นว่า องค์การค้าของคุรุสภา และสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาเป็นหน่วยงานของคุรุสภาองค์การค้าของคุรุสภาเป็นหน่วยงานที่หารายได้ส่วนสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาที่โจทก์เป็นเจ้าหน้าที่ประจำอยู่นั้นมีหน้าที่เกี่ยวกับการดำเนินงานในหน้าที่ของคุรุสภาการที่ศาลแรงงานกลางกำหนดปัญหาวินิจฉัยว่า’สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาอยู่ในบังคับของกฎหมายคุ้มครองแรงงานหรือไม่ โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาจะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานหรือไม่’ จึงเป็นการพิจารณาเพื่อจะนำไปสู่ประเด็นข้อพิพาทที่ได้กำหนดไว้ ตามพระราชบัญญัติครู พ.ศ.2488 อำนาจหน้าที่ของคุรุสภาซึ่งดำเนินงานโดยสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาไม่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับองค์การค้าของคุรุสภาที่มีการบริหารงานแยกไปต่างหากจากสำนักงานเลขาธิการพนักงานเจ้าหน้าที่ก็เป็นคนละส่วน กันผู้บังคับบัญชาในการบริหารของหน่วยงานทั้งสองเป็น คนละคน ระเบียบข้อบังคับที่ใช้ในแต่ละหน่วยก็แยก ต่างหากจากกัน เมื่อสำนักงานเลขาธิการคุรุสภามิได้มีการ ดำเนินงานเพื่อหารายได้มาแบ่งปันกันระหว่างพนักงานแสดง ว่าจำเลยไม่มีวัตถุประสงค์ในการแสวงหากำไรทางเศรษฐกิจจำเลยหาต้องอยู่ในบังคับของกฎหมายคุ้มครองแรงงานไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยจ้างโจทก์เป็นลูกจ้างประจำ โดยสังกัดสำนักงานเลขาธิการคุรุสภามีหน้าที่เกี่ยวกับการดำเนินงานของคุรุสภาทั้งในด้านการปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ในมาตรา 6 และการหารายได้ทุก ๆ อย่างตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติครูพุทธศักราช 2488 รวมทั้งกิจการหารายได้ขององค์การค้าคุรุสภา เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2527 ซึ่งเป็นวันแรงงานแห่งชาติ ตามประกาศกระทรวงมหาดไทยกำหนดให้เป็นวันหยุดพิเศษ แต่จำเลยให้โจทก์ทำงานโดยไม่จ่ายค่าทำงานในวันหยุด ขอให้บังคับจำเลยให้จ่ายค่าทำงานในวันหยุดแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นสภาในกระทรวงศึกษาธิการ มีฐานะเป็นนิติบุคคลตั้งขึ้นโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติครู พุทธศักราช 2488 สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาจัดตั้งขึ้นตามมาตรา 8 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติครู พุทธศักราช 2488 มีเลขาธิการคุรุสภาเป็นผู้บังคับบัญชีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา และบริหารกิจการของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาขึ้นตรงต่อประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภา สำนักงานเลขาธิการคุรุสภามีหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการดำเนินงานของคุรุสภา ประสานงานและดำเนินการในเรื่องของครูกับหน่วยราชการหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องกับครูประสานงานและดำเนินการเกี่ยวกับกิจการอื่นที่คุรุสภามอบหมาย และจัดทำรายงานประจำปีเกี่ยวกับครูเสนอต่อคุรุสภา ส่วนองค์การค้าของคุรุสภาเป็นหน่วยงานหาผลประโยชน์ของคุรุสภา ตั้งขึ้นตามมติของกรรมการอำนวยการคุรุสภา โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 5(3) แห่งพระราชบัญญัติครู พุทธศักราช 2488 มีผู้อำนวยการองค์การค้าของคุรุสภาเป็นผู้บังคับบัญชา มีคณะกรรมการองค์การค้าของคุรุสภาเป็นกรรมการบริหาร สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาและองค์การค้าของคุรุสภาก่อตั้งขึ้นคนละคราว มีกิจการแยกต่างหากจากกัน นอกจากจะมีผู้บังคับบัญชาคนละคนแล้วการบริหารงานภายในยังมีระเบียบและข้อบังคับที่กฎหมายให้อำนาจส่วนของตนโดยเอกเทศ คือการบริหารงานของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาถือปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการโดยอนุโลม เป็นงานที่ต้องปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ของคุรุสภาตามมาตรา 6(1) ถึง (5) ซึ่งไม่มีวัตถุประสงค์ในการแสวงหากำไรในทางเศรษฐกิจส่วนการบริหารงานขององค์การค้าของคุรุสภาเป็นไปตามระเบียบคุรุสภาว่าด้วยการบริหารองค์การค้าของคุรุสภา พุทธศักราช 2503 การแบ่งแยก การจัดองค์กรก็เป็นอิสระแตกต่างจากกันไม่ขึ้นแก่กัน ดังนั้นไม่ว่าองค์การค้าของคุรุสภาจะเป็นกิจการที่แสวงหากำไรทางเศรษฐกิจอันเป็นผลให้ต้องอยู่ในบังคับแห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 103 เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ก็หามีผลกระทบหรือครอบคลุมถึงสถานะของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาไม่ ตามอำนาจหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาดังกล่าวแล้ว เห็นได้ว่า สำนักงานเลขาธิการคุรุสภามิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไรในทางเศรษฐกิจ จึงเป็นกิจการอื่นที่กระทรวงมหาดไทยได้กำหนดมิให้ใช้บังคับประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 103 ข้อ 2 และ 14 ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานลงวันที่ 16 เมษายน 2515 ข้อ 1(4) ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดกิจการที่มิให้ใช้บังคับตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่16 เมษายน 2515 ข้อ 2 ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า คดีนี้ ศาลแรงงานกลางได้กำหนดประเด็นข้อพิพาทว่า โจทก์มีสิทธิเรียกค่าทำงานในวันหยุดจากจำเลยหรือไม่เพียงใด และทางพิจารณาของศาลแรงงานกลางปรากฏข้อเท็จจริงรับฟังได้เบื้องต้นว่า องค์การค้าของคุรุสภาและสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาเป็นหน่วยงานของคุรุสภาองค์การค้าของคุรุสภาเป็นหน่วยงานที่หารายได้ ส่วนสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาที่โจทก์ทั้งสี่เป็นเจ้าหน้าที่ประจำอยู่นั้น มีหน้าที่เกี่ยวกับการดำเนินงานในหน้าที่ของคุรุสภา ฉะนั้นการที่ศาลแรงงานกลางกำหนดปัญหาวินิจฉัยดังกล่าว จึงเป็นการพิจารณาเพื่อจะนำไปสู่ประเด็นข้อพิพาทที่ได้กำหนดไว้ และปรากฏว่าสำนักงานเลขาธิการคุรุสภามิได้มีการดำเนินงานเพื่อหารายได้มาแบ่งปันกันระหว่างพนักงาน แสดงว่าจำเลยไม่มีวัตถุประสงค์ในการแสวงหากำไรในทางเศรษฐกิจจำเลยหาต้องอยู่ในบังคับของกฎหมายคุ้มครองแรงงานไม่
ที่โจทก์อุทธรณ์ว่า พระราชบัญญัติครู พ.ศ. 2488 มาตรา 8 ทวิ(1) บัญญัติให้สำนักงานเลขาธิการคุรุสภามีหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการดำเนินงานของคุรุสภาองค์การค้าของคุรุสภา เป็นองค์การจัดหาผลประโยชน์ของจำเลยซึ่งเป็นงานส่วนหนึ่งของจำเลย ดังนั้น องค์การค้าของคุรุสภาจึงย่อมตกอยู่ในหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาที่จะเป็นผู้ดำเนินงานนั้น เห็นว่าพระราชบัญญัติครูพ.ศ. 2488 มาตรา 8 ทวิ(1) บัญญัติให้สำนักงานเลขาธิการคุรุสภามีหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการดำเนินงานของคุรุสภา และอำนาจหน้าที่ของคุรุสภาได้บัญญัติไว้ในมาตรา 6 ว่า “คุรุสภามีอำนาจและหน้าที่ดังต่อไปนี้
(1) ให้ความเห็นแก่กระทรวงศึกษาธิการในเรื่องการจัดการศึกษาโดยทั่วไปหลักสูตร แบบเรียน อุปกรณ์ประกอบการเรียน การสอน การฝึกอบรม การวัดผลและประเมินผลการศึกษา การนิเทศการศึกษา และเรื่องอื่นที่เกี่ยวเนื่องโดยตรงกับการจัดการศึกษา
(2) ควบคุมและสอดส่องจรรยา มรรยาท และวินัยของครู พิจารณาโทษครูผู้ประพฤติผิด และพิจารณาคำร้องทุกข์ของครู
(3) พิทักษ์สิทธิของครูภายในขอบเขตที่กฎหมายกำหนด
(4) ส่งเสริมให้ครูได้รับสวัสดิการต่าง ๆ ตามสมควร
(5) พัฒนาความรู้ ความสามารถ คุณภาพ และประสิทธิภาพของครู”
จากบทบัญญัติดังกล่าว จะเห็นได้ว่าอำนาจหน้าที่ของคุรุสภาซึ่งดำเนินงานโดยสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ไม่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับองค์การค้าของคุรุสภาสำหรับกิจการขององค์การค้าคุรุสภามีการบริหารงานแยกไปต่างหากจากสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา พนักงานเจ้าหน้าที่ก็เป็นคนละส่วนกัน ผู้บังคับบัญชาในการบริหารงานของหน่วยงานทั้งสองเป็นคนละคน โดยองค์การค้าของคุรุสภามีผู้อำนวยการองค์การค้าของคุรุสภาเป็นผู้ดำเนินงาน ส่วนสำนักงานเลขาธิการคุรุสภามีเลขาธิการคุรุสภาเป็นผู้บริหารงาน ระเบียบข้อบังคับที่ใช้ในแต่ละหน่วยงานก็แยกต่างหากจากกัน สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาจึงไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับองค์การค้าของคุรุสภาแต่อย่างใด
พิพากษายืน