คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2277/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องของโจทก์ที่ขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาโดยไม่เชื่อว่าโจทก์เป็นคนยากจน และคดีของโจทก์ไม่มีมูลที่จะฟ้องร้อง โจทก์มิได้อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นภายใน 7 วัน กลับยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำขอนั้นใหม่เพื่ออนุญาตให้ตนนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าเป็นคนยากจนอีก แม้ตามคำร้องจะแสดงให้เห็นด้วยว่าโจทก์ประสงค์นำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าคดีของตนมีมูลที่จะฟ้องร้องก็ตาม แต่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 อนุญาตให้ผู้ขอนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมในข้อที่ว่าตนเป็นคนยากจนแต่ประการเดียวเท่านั้น ดังนั้นปัญหาที่ว่าคดีโจทก์มีมูลที่จะฟ้องร้องหรือไม่ ย่อมยุติแล้วตามคำสั่งศาลชั้นต้นแม้ได้ความว่าโจทก์เป็นคนยากจน ก็ไม่เป็นประโยชน์แก่รูปคดีของโจทก์จึงไม่มีเหตุที่จะพิจารณาคดีของโจทก์ใหม่

ย่อยาว

โจทก์ขอฟ้องคดีอย่างอนาถา ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งยกคำร้องโดยไม่เชื่อว่าโจทก์เป็นคนยากจน ไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียมได้และโจทก์ยังไม่แสดงให้เป็นที่พอใจว่าคดีของโจทก์มีมูลที่จะฟ้องร้องโจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นพิจารณาคำร้องของโจทก์ใหม่ เพื่อให้โจทก์นำพยานหลักฐานเข้าสืบเพิ่มเติมว่าโจทก์เป็นคนยากจน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ยังไม่มีเหตุผลพอที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมให้ยกคำร้องศาลอุทธรณ์ให้ยกอุทธรณ์ของโจทก์ โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “การขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาโจทก์มีหน้าที่นำสืบให้ศาลเห็นว่าโจทก์เป็นคนยากจนไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียม และจะต้องแสดงให้เป็นที่พอใจศาลด้วยว่าคดีของตนมีมูลที่จะฟ้องร้อง แต่เมื่อศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องของโจทก์โดยอาศัยเหตุ 2 ประการดังกล่าวแล้ว โจทก์มิได้อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นภายใน 7 วัน กลับยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำขอนั้นใหม่เพื่ออนุญาตให้ตนนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าเป็นคนยากจนอีก แม้ตามคำร้องจะแสดงให้เห็นด้วยว่าโจทก์ประสงค์นำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าคดีของตนมีมูลที่จะฟ้องร้องก็ตาม แต่ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 อนุญาตให้ผู้ขอนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมเฉพาะในข้อที่ว่าตนเป็นคนยากจนแต่ประการเดียวเท่านั้น ดังนั้น ปัญหาที่ว่าคดีโจทก์มีมูลที่จะฟ้องร้องหรือไม่ย่อมยุติแล้วตามคำสั่งศาลชั้นต้น ถึงหากศาลจะอนุญาตให้โจทก์นำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมและได้ความว่าโจทก์เป็นคนยากจนก็ไม่เป็นประโยชน์แก่รูปคดีของโจทก์เพราะถึงอย่างไรศาลก็ไม่มีอำนาจที่จะไปวินิจฉัยปัญหาที่ยุติแล้วดังกล่าวมานั้นได้ จึงไม่มีเหตุที่จะพิจารณาคดีของโจทก์ใหม่คำสั่งศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน คืนค่าธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์และฎีกาให้แก่โจทก์ค่าทนายความในชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share