แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ซื้อขายทรัพย์กันและได้ชำระเงินและส่งมอบของกันเสร็จแล้วภายหลังปรากฎว่าสัญญาทำไม่ถูกแบบเป็นโมฆะ ผู้ซื้อต้องคืนทรัพย์นั้นให้ผู้ขายและผู้ขายก็ต้องส่งเงินราคาค่าซื้อให้ผู้ซื้อเช่นกัน
สัญญาซื้อขายเป็นโมฆะเมื่อผู้ขายถูกฟ้องเรียกราคาคืนจะต้องเสียดอกเบี้ยต้งแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
(หมายเหตุ ตาม ม.415 ฉะบับภาษาอังกฤษบ่งชัดว่า ในกรณีต้องคืนทรัพย์ ให้ถือว่าตกอยู่ในฐานะทุจจริต ตั้งแต่เวลาเรียกคืน)
ย่อยาว
ได้ความว่าจำเลยที่ 1-2 ทำสัญญากู้เงินโจทก์ไป 420 บาทแล้วไปขอกู้อีก 180 บาท รวม 600 บาท แล้วจำเลยทำสัญญาขายที่นารายพิพาทของจำเลยให้โจทก์เป็นราคา 600 บาท เป็นการหักชำระหนี้เงินกู้กัน แล้วโจทก์ก็ให้จำเลยที่ 3 ผู้เป็นบบัตร์เขยจำเลยที่ 1-2 เช่าทำ
ศาลฎีกาตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์ว่าการซื้อขายที่นารายพิพาทนี้ไม่ได้ทำถูกต้องตามกฎหมายเป็นโมฆะ โจทก์ยังไม่ได้กรรมสิทธิในที่นารายนี้ แต่จำเลยต้องคืนเงิน 600 บาทให้โจทก์ตามมาตรา 406 ส่วนในเรื่องดอกเบี้ยในเงินจำนวนนี้ ที่ศาลอุทธรณ์บังคับให้จำเลยที่ 1-2 เสียตั้งแต่วันทำสัญญาซื้อขายนั้นยังไม่ถูก ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยต้องรับผิดในดอกเบี้ยตั้งแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะใช้เงินเสร็จ