แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ลงโทษจำคุกและปรับจำเลยแต่โทษจำคุกให้เปลี่ยนเป็นโทษกักขังแทน การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นไม่เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขังและให้รอการลงโทษจำเลยไว้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56นั้นไม่เป็นการเพิ่มเติมโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 212 เพราะการรอการลงโทษยังไม่ต้องรับโทษจึงเบากว่าโทษกักขัง
(วินิจฉัยโดยมติที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 13/2517)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการพนัน
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ คนละ ๑๕ วันและปรับคนละ ๖๐๐ บาท จำเลยนอกนั้นจำคุกคนละ ๑๐ วัน และปรับคนละ ๔๐๐ บาทโทษจำคุกให้เปลี่ยนเป็นโทษกักขังแทนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๓ริบของกลาง กับให้จ่ายสินบนนำจับ
จำเลยทุกคนอุทธรณ์ขอให้รอการลงโทษ หรือยกโทษจำคุก ขอเพียงปรับสถานเดียว
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้รอการลงโทษจำคุกจำเลยที่ ๓ ถึง ๑๒ที่ศาลชั้นต้นวางไว้คนละ ๒ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖โดยไม่ลงโทษกักขังแทน นอกจากนี้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาว่าศาลอุทธรณ์จะรอการลงโทษจำเลยที่ ๓ ถึงที่ ๑๒ ไม่ได้
ศาลฎีกาโดย ที่ประชุมใหญ่มีมติว่า การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นไม่เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขัง และให้รอการลงโทษจำเลยไว้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ นั้น ไม่เป็นการเพิ่มเติมโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๑๒ เพราะการรอการลงโทษยังไม่ต้องรับโทษ จึงเบากว่าโทษกักขัง พิพากษายืน