คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 199/2517

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยกับผู้เสียหายต่างเมาสุราเดินมาด้วยกัน และพูดผิดใจกันด้วยเรื่องเล็กน้อย จำเลยได้ใช้สันขวานหนา 1.85 เซนติเมตร กว้าง 4 เซนติเมตร ตีหน้าผากผู้เสียหายจนสลบไปชั่วครู่ กะโหลกศีรษะเพียงแต่ยุบนิด ๆ รักษาประมาณ 15 วันหาย แสดงว่าจำเลยตีไม่แรงนัก ตีแล้วก็หนีไปมิได้ตีซ้ำเติมอีก ยังไม่พอฟังว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า คงมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายเท่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้ขวานทำร้ายผู้เสียหายโดยเจตนาฆ่า ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘,๘๐ และริบขวานของกลาง
จำเลยให้การรับว่าตีทำร้ายผู้เสียหายจริง แต่มิได้มีเจตนาฆ่า
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลอาญากฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘,๘๐ ให้จำคุก ๑๒ ปี ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก ๘ ปี ของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๕ ให้จำคุก ๑ ปี ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก ๘ เดือน
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยใช้สันขวานตีผู้เสียหายฟุบหมดสติไปชั่วครู่ ผู้เสียหายได้รับบาดแผล ๓ แห่ง คือ ที่หน้าผากด้านซ้ายกว้าง ๑ เซนติเมตร ยาว ๕ เซนติเมตร ลึกจดกะโหลกศีรษะ ที่เหนือคิ้วซ้ายกว้าง ๑ เซนติเมตร ยาว ๒ เซนติเมตร ลึก ๑ เซนติเมตรครึ่ง และมีรอยช้ำบวมที่ต้นคอด้านหลัง กว้าง ๒ เซนติเมตร ยาว ๔ เซนติเมตร และเห็นว่าจำเลยกับผู้เสียหายเป็นคนชอบพอเที่ยวดื่มสุราด้วยกัน วันเกิดเหตุจำเลยกับผู้เสียหายก็ไปดื่มสุราเมามายมาด้วยกัน ผู้เสียหายจะพาจำเลยไปส่งบ้าน ผู้เสียหายได้พูดผิดใจจำเลยในเรื่องเล็กน้อย ซึ่งไม่น่าเป็นเหตุถึงกับจำเลยจะมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย ขวานที่จำเลยใช้ตีผู้เสียหายนั้น สันขวานที่ใช้ตีกว้าง ๔ เซนติเมตร หนา ๑.๘๕ เซนติเมตร ตีผู้เสียหายคงไม่แรงมากนัก กะโหลกศีรษะจึงไม่ร้าวหรือแตกเพียงแต่ยุบนิด ๆ ไม่ได้ใช้คมขวานฟันผู้เสียหาย เมื่อจำเลยตีแล้วก็หลบหนีไป หาได้ตีซ้ำเติมจนเกิดบาดแผลฉกรรจ์ และหลายแห่งไม่ ผู้เสียหายว่าถูกตีสลบไปชั่วครู่ แต่ก็ไม่แจ้งความตำรวจ และให้แพทย์ประจำตำบลทำบาดแผลด้วยตนเองภายหลังเกิดเหตุได้ ไม่ได้เข้ารักษาตัวในสถานพยาบาลแห่งใด แพทย์ประจำตำบลก็เพียงเย็บบาดแผลให้ผู้เสียหายเท่านั้น ไม่ปรากฏว่าได้รักษาพยาบาลให้ผู้เสียหายกันต่อมาอย่างใดอีก จึงไม่น่าจะเป็นบาดแผลที่อาจถึงตายได้ หากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที ฉะนั้น รูปคดีจึงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย คงฟังได้แต่เพียงว่าจำเลยทำร้ายร่างกายผู้เสียหายถึงอันตรายแก่กายเท่านั้น
พิพากษายืน

Share