คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2753/2539

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยกับพวกขึ้นไปบนรถโดยสารประจำทางบังคับขู่เข็ญให้ผู้เสียหายถอด เสื้อฝึกงานและ แหวนรุ่นทำด้วยเงินซึ่งมีราคาเล็กน้อยจำเลยกับพวกกระทำไปเป็นการแสดงอำนาจบาตรใหญ่ด้วยความคะนองเพื่อให้ผู้เสียหายซึ่งเป็นนักศึกษาต่างสถาบันที่มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับสถาบันของจำเลยเห็นว่าเป็นคนเก่งพอที่จะรังแกคนได้ตามวิสัยวัยรุ่นที่มีความประพฤติไม่เรียบร้อยเท่านั้นมิใช่มุ่งหมายเพื่อจะได้ประโยชน์จากทรัพย์จึงไม่เป็นความผิดฐานปล้นทรัพย์แต่เป็นความผิดต่อเสรีภาพตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา309วรรคแรกซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความผิดฐานปล้นทรัพย์ตามที่โจทก์ฟ้องจึงต้องลงโทษตามที่พิจารณาได้ความส่วนเสื้อฝึกงานและแหวนเงินจำเลยไม่มีสิทธิยึดถือไว้ต้องคืนแก่ผู้เสียหายหลังจากให้ถอดเสื้อฝึกงานและแหวนเงินแล้วกลุ่มเพื่อนของจำเลย3คนได้ชกต่อยผู้เสียหายจากนั้นจำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายในระยะห่าง1ฟุตแต่ผู้เสียหายยกขาและแขนขึ้นปิดป้องไว้และกระสุนปืนถูกกระดุมเสื้อซึ่งเป็นแผ่นเหล็กเป็นเหตุให้ไม่ถูกอวัยวะส่วนสำคัญถือได้ว่าจำเลยใช้ปืนยิงโดยมี เจตนาฆ่าแต่การกระทำไม่บรรลุผลจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา288,80และมาตรา371

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ขอให้ ลงโทษ จำเลย ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80,340, 340 ตรี , 371, 91 พระราชบัญญัติ อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และ สิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7,8 ทวิ , 55, 72, 72 ทวิ , 78 และ ขอให้ จำเลย คืน หรือ ใช้ ราคา เสื้อสำหรับ ฝึกงาน 1 ตัว ราคา 300 บาท แหวน เงิน 1 วง ราคา 160 บาทรวม ราคา ทรัพย์ 460 บาท แก่ ผู้เสียหาย
จำเลย ให้การ ปฏิเสธ
ศาลชั้นต้น พิพากษา ว่า จำเลย มี ความผิด ตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 80, 90, 91, 288, 340 วรรคสี่ , 340 ตรี , 371 จำเลย อายุกว่า สิบ เจ็ด ปี แต่ ยัง ไม่เกิน ยี่สิบ ปี ลด มาตรา ส่วน โทษ ให้ หนึ่ง ใน สามตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 ลงโทษ ตาม มาตรา 371 ปรับ 60 บาทสำหรับ ความผิด ตาม มาตรา 288, 80, 340 วรรคสี่ มาตรา 340 ตรีลงโทษ ตาม มาตรา 340 วรรคสี่ ประกอบ ด้วย มาตรา 340 ตรีซึ่ง เป็น บทที่ มี โทษหนัก ที่สุด ตาม มาตรา 90 จำคุก 16 ปี รวม จำคุก16 ปี ปรับ 60 บาท กับ ให้ จำเลย คืน หรือ ใช้ ราคา เสื้อ สำหรับ ฝึกงาน1 ตัว ราคา 300 บาท แหวน เงิน 1 วง ราคา 160 บาท แก่ ผู้เสียหายไม่ชำระ ค่าปรับ ให้ จัดการ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29 นอกจากนี้ ให้ยก เสีย
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับ ให้ยก ฟ้อง
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “พิเคราะห์ แล้ว ข้อเท็จจริง ฟัง เป็น ยุติตาม ที่ โจทก์ จำเลย ไม่ฎีกา โต้แย้ง คัดค้าน ว่า ขณะ เกิดเหตุ จำเลย เป็นนักศึกษา วิทยา เขต อุเทนถวาย ผู้เสียหาย เป็น นักศึกษา วิทยาลัยช่างกล ปทุมวัน ก่อน เกิดเหตุ นักศึกษา ของ สถาบัน ทั้ง สอง แห่ง เคยมี เรื่อง ทะเลาะวิวาท กัน บ่อยครั้ง ตาม วัน เวลา และ สถานที่เกิดเหตุตาม ฟ้อง ผู้เสียหาย กับ นาย สุภนิติ แสงธรรม นั่ง รถยนต์โดยสาร ประจำทาง เพื่อ ไป ศึกษา ที่ วิทยาลัย ช่างกล ปทุมวัน เมื่อ รถยนต์โดยสาร แล่น มา จอดที่ ป้าย จอดรถ โดยสาร ประจำทาง ก่อน ถึง หน้า สนามกีฬา แห่งชาติมี วัยรุ่น 7 ถึง 8 คน ขึ้น มา บน รถโดยสารประจำทาง บังคับ ขู่เข็ญ ชกต่อยผู้เสียหาย เอา เสื้อ สำหรับ ใส่ ฝึกงาน ของ ผู้เสียหาย กับ แหวน รุ่นทำ ด้วย เงิน รวม ราคา ทั้งหมด 460 บาท ไป และ ใช้ อาวุธปืน ยิง ถูก ผู้เสียหายที่ บริเวณ หน้าอก 1 นัด คดี มี ปัญหา ต้อง วินิจฉัย ตาม ฎีกา ของ โจทก์ ว่าจำเลย กระทำผิด ตาม ที่ โจทก์ ฟ้อง หรือไม่ เชื่อ ได้ว่า ผู้เสียหาย และนาย สุภนิติ สามารถ จด จำ จำเลย ได้ว่า เป็น คนร้าย ที่ ร่วม กับพวก ขึ้น ไป บน รถโดยสารประจำทาง บังคับ ขู่เข็ญ ผู้เสียหาย ให้ ยอม ให้เสื้อ ฝึกงาน กับ แหวน เงิน กับพวก จำเลย พยาน ฐาน ที่อยู่ ของ จำเลย ไม่สามารถฟัง หักล้าง พยานหลักฐาน ของ โจทก์ ได้ ข้อ ที่ จะ ต้อง วินิจฉัย ต่อไป คือการกระทำ ของ จำเลย จะ เป็น ความผิด ฐาน ปล้นทรัพย์ หรือไม่ ข้อเท็จจริงที่ โจทก์ นำสืบ มา ได้ความ ว่า ผู้เสียหาย กับ จำเลย ต่าง เป็น นักศึกษา ซึ่งเป็น วัยรุ่น และ สถาน ศึกษา ของ ผู้เสียหาย กับ สถาน ศึกษา ของ จำเลยเคย มี เรื่อง ทะเลาะวิวาท กัน มา ก่อน บ่อยครั้ง การ ที่ จำเลย กับพวกขึ้น ไป บน รถโดยสารประจำทาง เมื่อ เห็น ผู้เสียหาย สวม เสื้อ ฝึกงานซึ่ง มี เครื่องหมาย ของ สถาบัน ที่ มี เรื่อง กับ สถาบัน ของ จำเลย มา ก่อนจึง เข้า ไป บังคับ ขู่เข็ญ ให้ ผู้เสียหาย ถอด เสื้อ ฝึกงาน และ แหวน รุ่น ที่ทำ ด้วย เงิน ซึ่ง มี ราคา เพียง เล็กน้อย และ ไม่อาจ นำ ไป ใช้ ประโยชน์อื่น ใด ได้ นอกจาก ผู้ที่ เกี่ยวข้อง การกระทำ ของ จำเลย กับพวก เช่นนั้นเป็น พฤติการณ์ ที่ เห็น ได้ว่า จำเลย กับพวก มิได้ มี เจตนา ที่ จะ เอาไป เป็นของ ตนเอง อันเป็น การแสดง เจตนา ทุจริต เกี่ยวกับ ทรัพย์ ที่ เอาไปแต่ เป็น ที่ เห็น ได้ว่า จำเลย กับพวก กระทำ ไป เป็น การแสดง อำนาจ บาตรใหญ่ทำ ไป ด้วย ความ คะนอง เพื่อ ให้ ผู้เสียหาย ซึ่ง เป็น นักศึกษา ต่าง สถาบันที่ มี เรื่อง ทะเลาะวิวาท กับ สถาบัน ของ จำเลย เห็นว่า เป็น คน เก่ง พอ ที่ จะรังแก คน ได้ ตาม วิสัย วัยรุ่น ที่ มี ความประพฤติ ไม่ เรียบร้อย เท่านั้นมิใช่ มุ่งหมาย เพื่อ จะ ได้ ประโยชน์ จาก ทรัพย์ นั้น แต่ ประการใด การกระทำของ จำเลย กับพวก จึง ไม่เป็น ความผิด ฐาน ปล้นทรัพย์ แต่ การ ที่ จำเลยกับพวก ใช้ ปืน ใน ลักษณะ บังคับ ขู่เข็ญ จน ผู้เสียหาย ได้ ส่ง เสื้อ ฝึกงานกับ แหวน เงิน ให้ ไป นั้น เป็น การ ข่มขืน ใจ ผู้เสียหาย ต้อง จำยอม โดย ทำให้กลัว ว่า จะ เกิด อันตราย ต่อ ร่างกาย อันเป็น ความผิด ต่อ เสรีภาพตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 วรรคแรก ซึ่ง ความผิด ดังกล่าวนี้ เป็น ส่วน หนึ่ง ของ ความผิด ฐาน ปล้นทรัพย์ ตาม ที่ โจทก์ ฟ้อง จึง ต้องลงโทษ จำเลย ตาม ที่ พิจารณา ได้ความ ส่วน เสื้อ ฝึกงานและ แหวน เงิน จำเลย ไม่มี สิทธิ ยึดถือ ไว้ ต้อง คืน แก่ ผู้เสียหายปัญหา จะ ต้อง วินิจฉัย ต่อไป มี ว่า จำเลย พยายามฆ่า ผู้เสียหายหรือไม่ จาก คำเบิกความ ของ ผู้เสียหาย และ นาย สุภนิติ ว่า หลังจาก ที่ ผู้เสียหาย ถูก บังคับ ให้ ถอด เสื้อ ฝึกงาน และ แหวน เงิน แล้ว กลุ่ม เพื่อนของ จำเลย อีก ประมาณ 3 คน ได้ ชกต่อย ผู้เสียหาย หลังจาก นั้น จำเลยใช้ อาวุธปืน คิงส์คอบร้า ยิง ผู้เสียหาย ใน ระยะ ห่าง 1 ฟุต เห็นว่า ปืนเป็น อาวุธ ร้ายแรง สามารถ ประหัตประหาร ให้ ถึงแก่ความตาย ได้จำเลย จ่อ ยิง ผู้เสียหาย บริเวณ ลำตัว ซึ่ง เป็น อวัยวะ สำคัญ ใน ระยะ ห่างเพียง 1 ฟุต แต่ เนื่องจาก ผู้เสียหาย ยก ขา และ แขน ขึ้น ปิด ป้อง ไว้ และกระสุนปืน ถูก กระดุม เสื้อ ซึ่ง เป็น แผ่น เหล็ก เป็นเหตุ ให้ ไม่ ถูกอวัยวะ ส่วน สำคัญ ถือได้ว่า จำเลย ใช้ ปืน ยิง โดย มี เจตนาฆ่า ผู้เสียหายแต่ การกระทำ ของ จำเลย ไม่บรรลุผล โดย ผู้เสียหาย ไม่ถึง แก่ ความตายสม ดัง เจตนา จำเลย จึง มี ความผิด ฐาน พยายามฆ่า ผู้เสียหายและ ฐาน พา อาวุธปืน ไป ใน เมือง และ ทางสาธารณะ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80 และ มาตรา 371 แต่เมื่อพิเคราะห์ พฤติการณ์ แห่ง คดี แล้ว เห็นว่า ยัง ไม่มี เหตุสมควร ที่ จะ ลดมาตรา ส่วน โทษ ให้ จำเลย ที่ ศาลอุทธรณ์ พิพากษายก ฟ้องโจทก์ นั้นศาลฎีกา ไม่เห็น พ้อง ด้วย ฎีกา ของ โจทก์ ฟังขึ้น ”
พิพากษากลับ จำเลย มี ความผิด ตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 309 วรรคแรก มาตรา 288 ประกอบ ด้วย มาตรา 80และ มาตรา 371 การกระทำ ของ จำเลย เป็น ความผิด หลายกรรม ให้เรียง กระทง ลงโทษ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐาน ทำให้ เสื่อมเสีย เสรีภาพ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 วรรคแรก จำคุก 1 ปีฐาน พยายามฆ่า ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80 จำคุก10 ปี ฐาน พา อาวุธปืน ไป ใน เมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 ปรับ 100 บาท รวม จำคุก 11 ปี ปรับ100 บาท ไม่ชำระ ค่าปรับ ให้ จัดการ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30ให้ จำเลย คืน หรือ ใช้ ราคา เสื้อ สำหรับ ฝึกงาน 1 ตัว ราคา 300 บาทแหวน เงิน 1 วง ราคา 160 บาท แก่ ผู้เสียหาย คำขอ อื่น นอกจาก นี้ ให้ยก

Share