คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 275/2547

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องของโจทก์ไม่ได้กล่าวหาและขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรับผิดต่อโจทก์ในฐานละเมิด แต่ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระค่าเสียหายในการที่โจทก์ต้องผิดสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินของโจทก์ที่ไม่สามารถโอนที่ดินตามสัญญาให้แก่ผู้จะซื้อได้ เพราะที่ดินของโจทก์ถูกเวนคืนอันเนื่องจากการดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2530 ดังนั้นโจทก์จะมีสิทธิได้รับเงินค่าทดแทนเพียงใดต้องเป็นไปตามที่พระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2530 บัญญัติไว้ ซึ่งพระราชบัญญัตินี้บัญญัติเรื่องเงินค่าทดแทนไว้ในหมวด 2 เงินค่าทดแทน ซึ่งไม่มีบทบัญญัติให้จ่ายเงินค่าทดแทนสำหรับค่าเสียหายในการที่โจทก์ต้องผิดสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินของโจทก์เพราะที่ดินดังกล่าวถูกเวนคืน ดังนั้นโจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรับผิดค่าเสียหายในส่วนนี้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินค่าทดแทนที่ดินเพิ่มขึ้นแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยและค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินค่าทดแทนที่ดินเพิ่มขึ้นจากคณะกรรมการกำหนดราคาเบื้องต้น ฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยวินิจฉัยเพิ่มเงินค่าทดแทนให้แล้วอีกจำนวน ๘,๖๒๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราสูงสุดของดอกเบี้ยเงินฝากประเภทฝากประจำของธนาคารออมสิน นับแต่วันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๓๘ จนกว่าจะชำระแล้วเสร็จแก่โจทก์ แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกินร้อยละ ๑๒ ต่อปี ตามฟ้อง กับให้ร่วมกันชดใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ ๒๐,๐๐๐ บาท คำขออื่นให้ยก
โจทก์และจำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินค่าทดแทนเพิ่มขึ้นจากที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยวินิจฉัยเพิ่มให้แล้วอีกจำนวน ๔,๓๑๐,๐๐๐ บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์และจำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว วินิจฉัยว่า… โจทก์บรรยายฟ้องว่า เนื่องจากโจทก์มีความผูกพันตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพิพาทก่อนที่จำเลยทั้งสองได้บังคับซื้อที่ดินพิพาท จึงเป็นเหตุให้โจทก์ไม่อาจจดทะเบียนโอนที่ดินพิพาทให้แก่ผู้จะซื้อได้ตามสัญญา โจทก์จึงตกเป็นผู้ผิดสัญญาและถูกบังคับเอาค่าเสียหายเป็นเงิน ๑,๕๐๐,๐๐๐ บาท เมื่อโจทก์ได้ชำระค่าเสียหายดังกล่าวให้แก่ผู้จะซื้อแล้ว ความเสียหายในส่วนนี้จำเลยทั้งสองจะต้องรับผิดชำระคืนแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี เห็นว่า ฟ้องของโจทก์ส่วนนี้ไม่ได้กล่าวหาและขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรับผิดต่อโจทก์ในฐานละเมิด แต่ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระค่าเสียหายส่วนนี้แก่โจทก์เพราะที่ดินของโจทก์ถูกเวนคืนอันเนื่องจากการดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ดังนั้น โจทก์จะมีสิทธิได้รับเงินค่าทดแทนเพียงใดต้องเป็นไปตามที่พระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ บัญญัติไว้ ซึ่งพระราชบัญญัตินี้บัญญัติเรื่องเงินค่าทดแทนไว้ในหมวด ๒ เงินค่าทดแทน ซึ่งไม่มีบทบัญญัติให้จ่ายเงินค่าทดแทนสำหรับค่าเสียหายในการที่โจทก์ต้องผิดสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินทั้งสองแปลงของโจทก์เพราะที่ดินทั้งสองแปลงดังกล่าวถูกเวนคืน ดังนั้น โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าเสียหายส่วนนี้ ฎีกาข้อนี้ของโจทก์ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์ทั้งหมด ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้เป็นพับ.

Share