แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำขอบังคับของโจทก์และคำขอบังคับตามฟ้องแย้งของจำเลยเป็นการบังคับเอากับที่ดินแปลงเดียวกัน สิทธิที่จำเลยกล่าวอ้างขึ้นในคำฟ้องแย้งก็เกี่ยวกับข้อตกลงในเรื่องที่ดินแปลงที่พิพาทกัน และข้ออ้างตามฟ้องแย้งของจำเลยก็เป็นข้อเท็จจริงเดียวกันกับที่จำเลยยกขึ้นมาเป็นข้อปฏิเสธคำฟ้องของโจทก์ ข้ออ้างตามฟ้องแย้งของจำเลยจึงเป็นเรื่องเกี่ยวกับคำฟ้องเดิมที่จะพิจารณารวมกันไปได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้จัดการมรดกของนายหยด บุญชูตามคำสั่งศาล ที่ดินตาม น.ส.3ก. เลขที่ 99 ตำบลท่าเคยอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เป็นของนายหยด นายหยดได้นำที่ดินแปลงดังกล่าวไปจดทะเบียนจำนองกับจำเลยเป็นเงิน 10,000 บาทโดยมอบที่ดินให้จำเลยทำไร่แทนดอกเบี้ย ต่อมานายหยดถึงแก่ความตายโจทก์ได้ขอไถ่ถอนที่ดินดังกล่าว แต่จำเลยไม่ยอมให้ไถ่ถอนคืน อ้างว่าตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยแล้ว ขอให้บังคับจำเลยให้ไถ่ถอนที่ดินตามฟ้องและรับเงินจากโจทก์จำนวน 10,000 บาท หากจำเลยไม่ยอมปฏิบัติตามให้ถือคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาแทน
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า นายหยดได้ขายที่ดินให้จำเลย2 แปลง รวมทั้งที่ดินแปลงที่โจทก์ฟ้อง แต่เนื่องจากที่ดินดังกล่าวทางราชการห้ามโอนขายในกำหนด 10 ปี เพื่อเป็นหลักประกันในการที่นายหยดรับเงินค่าที่ดินไปแล้ว นายหยดกับจำเลยจึงตกลงกันจดทะเบียนจำนองไว้ และนายหยดได้มอบสิทธิการครอบครองที่ดินให้แก่จำเลยแล้วจำเลยครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินทั้งสองแปลงตลอดมาจนปัจจุบัน นอกจากนั้นนายหยดยังตกลงกับจำเลยว่าถ้านายหยดไม่ยอมโอนที่ดินดังกล่าว หรือไม่สามารถจะโอนได้ไม่ว่าด้วยเหตุใด และนายหยดจะไถ่ถอนที่ดินทั้งสองแปลงดังกล่าว นายหยดต้องชำระเงินเป็นค่าไถ่ถอนและดอกเบี้ยรวมทั้งประโยชน์อื่น ๆ เป็นเงิน 220,000 บาทต่อมานายหยดไม่ยอมโอนที่ดินให้แก่จำเลยและนายหยดตาย จำเลยจึงฟ้องโจทก์ซึ่งเป็นทายาท โจทก์ชำระหนี้ให้จำเลยเพียง 111,324.50 บาทเป็นการไถ่ถอนที่ดินแปลงหนึ่ง และรับสภาพหนี้ไว้ว่า จะต้องชำระให้จำเลยอีก 100,000 บาทเศษ แต่โจทก์ไม่ชำระ จึงไม่มีสิทธิขอไถ่ถอนจำนองที่ดินตามฟ้อง เจตนาของนายหยดและจำเลยคือการซื้อขายที่ดิน แต่นายหยดผิดนัด โจทก์ซึ่งเป็นทายาทของนายหยดเป็นผู้ผิดสัญญา ขอให้ยกฟ้อง และขอให้โจทก์โอนที่ดินตามฟ้องให้จำเลย ถ้าไม่สามารถโอนได้ขอให้โจทก์ใช้เงินแก่จำเลย 108,675.48 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์2532 จนกว่าจะชำระเสร็จ
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับคำให้การ ส่วนฟ้องแย้งจำเลยนั้นเห็นว่าไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม จึงไม่รับฟ้องแย้ง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คำขอบังคับของโจทก์และคำขอบังคับตามฟ้องแย้งของจำเลยนั้นเป็นการบังคับเอากับที่ดินแปลงเดียวกันสิทธิที่จำเลยกล่าวอ้างขึ้นในคำฟ้องแย้งเป็นข้ออ้างที่เกี่ยวกับข้อตกลงในเรื่องที่ดินแปลงที่พิพาทกัน และข้ออ้างตามฟ้องแย้งของจำเลยที่ว่า ที่จริงเป็นการซื้อขายที่ดินกันจดทะเบียนจำนองไว้เพื่อเป็นประกันการบิดพริ้วกรณีที่นายหยดไม่ไปโอนที่ที่ตกลงซื้อขายกันให้จำเลย และถ้าโอนกันไม่ได้นายหยดตกลงไถ่ถอนจำนองเป็นเงินอีกจำนวนหนึ่งซึ่งมิใช่ตามที่โจทก์ฟ้องนั้น ก็เป็นข้อเท็จจริงเดียวกันกับที่จำเลยยกขึ้นมาเป็นข้อปฏิเสธคำฟ้องของโจทก์ข้ออ้างตามฟ้องแย้งของจำเลยจึงเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิมที่จะพิจารณารวมกันไปได้ มิใช่คำฟ้องในเรื่องอื่นอันไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177วรรคสาม
พิพากษากลับ ให้รับฟ้องแย้งของจำเลยไว้พิจารณาดำเนินการต่อไป