คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 275/2486

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เรือของกลางอันจะพึงริบตาม พ.ร.บ.สุลกากร ม.32 โจทจะต้องบันยายฟ้องไห้ได้ความชัดว่ามีระวางบันทุกเท่าได มิฉนั้นสาลจะไม่สั่งริบ
กรนีที่ถือว่าโจทระบุเปนความผิดตาม พ.ร.บ.สุลกากรและ พ.ร.บ.ควบคุมการนำเข้ามาและส่งออกไปซึ่งสินค้าบางหย่าง

ย่อยาว

โจทฟ้องขอไห้ลงโทสจำเลยตาม พ.ร.บ.ควบคุมการนำเข้ามาไนและการส่งออกไปนอกราชอานาจักร ซึ่งสินค้าบางหย่าง ๒๔๘+ มาตรา ๓,๙ พระราชกริสดีกาควบคุมการนำเข้ามาไนและการส่งออกไปนอกราชอานาจักร ซึ่งสินค้าบางหย่าง ๒๔๘๕ ม.๓ พ.ร.บ.สุลกากร ๒๔๖๙ ม.๒๗,๓๒,๓๔ และขอไห้ริบของกลาง
จำเลยไห้การรับสารภาพ
สาลชั้นต้นพิจารนาแล้วพิพากสาว่าจำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมการนำเข้ามาไนและการส่งออกไปนอกราชอานาจักรซึ่งสินค้าบางหย่าง ๒๔๘๒ มาตรา ๓,๙ พระราชกริสดีกาควบคุมการนำเข้ามาไนราชอานาจักรซึ่งสินค้าบางหย่าง ฯ ๒๔๘๕ ม.๓ คงปรับจำเลย ๒๕๐ บาท ของกลางริบ
ส่วนเรือและเครื่องอุปกรน์ในการเดินเรือไห้คืนแก่จำเลยไปเพราะเห็นว่าที่โจทบันยายฟ้องมาเปนความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมการนำเข้ามาไนและการส่งออกไปนอกราชอานาจักรซึ่งสินค้าบางหย่าง ๒๔๘๒ มาตรา ๓ หย่างเดียว หาไช่ความผิดตาม พ.ร.บ.สุลกากรด้วยไม่ จึงไม่ลงโทสจำเลยตาม พ.ร.บ.สุลกากร
โจทอุธรน์ สาลอุธรน์พิพากสาว่าจำเลยผิดต่อ พ.ร.บ.สุลกากร ๒๔๘๙ มาตรา ๒๗ อีกบทหนึ่งไห้ริบของกลางที่ซึ่งรวมตลอดถึงเรือและอื่น ๆ เสียทั้งสิ้น นอกจากที่แก้นี้คงพิพากสายืน
จำเลยดีกา สาลดีกาเห็นว่าโจทบันยายฟ้องเปนความผิดตาม พ.ร.บ.สุลกากรด้วยแล้ว และเมื่อจำเลยรับสารภาพตามฟ้อง ก็เปนอันฟังได้ว่าจำเลยได้กะทำการอันเปนความผิดครบถ้วนตามองค์แห่งความผิดแห่ง ม.๒๗ พ.ร.บ.สุลกากรแล้ว แต่ตาม ม.๓๒ ที่โจทอ้างมาไนฟ้องนั้น บัญญัติไห้ริบเรือได ๆ ที่ไช้ไนการกะทำผิด อันมีระวางบันทุกไม่เกิน ๒๕๐ ตัน ซึ่งข้อเท็จจริงไนคดีนี้ไม่ปรากดอย่างไดเลยว่าเปนเรือมีระวางบันทุกไม่เกิน ๒๕๐ ตัน อันจะต้องริบตามกดหมาย สาลไม่อาดรับรู้ได้เองถึงระวางบันทุกของเรือไบของกลาง เมื่อคดีไม่ปรากดว่าของกลางมีลักสนะอันจะริบได้ตามกดหมาย สาลจะสั่งริบเรือและเครื่องอุปกรน์นั้นยังไม่ได้ จึงพิพากสาแก้คำพิพากสาสาลอุธรน์โดยไม่สั่งบังคับไนเรื่องการริบเรือและเครื่องอุปกรน์ นอกนั้นยืน

Share