คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2739/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทรัพย์สินของโจทก์ที่ถูกละเมิดเป็นรถยนต์บรรทุกช่วยรบขนาด 1.1 ตัน รุ่นยูนีมอกยี่ห้อเมอร์ซีเดส เบนซ์ สำหรับใช้ปฏิบัติการในการช่วยรบที่โจทก์เพิ่งซื้อมาใหม่เป็นพิเศษจากประเทศเยอรมันตะวันตกในราคา1,600,000บาทบริษัทธ.ได้ตรวจสอบความเสียหาย ปรากฏว่ารถได้รับความเสียหายรวม 52 รายการต้องใช้ชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่ต้องสั่งจากประเทศเยอรมันตะวันตกโดยตรงเท่านั้น เมื่อรวมค่าขนส่งทางทะเลและค่าภาษีนำเข้าแล้วเป็นเงิน1,773,800 บาท และค่าแรงอีก 120,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น1,893,800 บาท จึงถือได้ว่าโจทก์เสียหายเป็นเงิน 1,893,800 บาทการที่โจทก์ขอค่าเสียหายเป็นค่าซ่อมจำนวนดังกล่าว จึงเป็นค่าเสียหายที่ตรงต่อความจริงและโจทก์มีสิทธิได้รับค่าเสียหายดังกล่าวตามฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 ได้ขับรถยนต์บรรทุกในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 ไปตามทางหลวงหมายเลข201 ถนนสายชัยภูมิ – สีคิ้ว จากอำเภอเมืองชัยภูมิมุ่งหน้าไปทางตำบลบ้านค่าย อำเภอเมืองชัยภูมิด้วยความประมาท ได้ขับแซงขึ้นหน้ารถคันอื่นในที่คับขัน โดยมีรถคันอื่นรวมทั้งรถยนต์บรรทุกหมายเลขทะเบียน ตราจักร 85146 ของโจทก์แล่นสวนทางมาในระยะกระชั้นชิดเป็นเหตุให้รถยนต์คันที่จำเลยที่ 1 ขับเฉี่ยวชนรถของโจทก์ในช่องเดินรถของโจทก์จนรถของโจทก์พังเสียหายคิดเป็นเงินทั้งสิ้น 1,893,800 บาท จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นนายจ้างต้องร่วมกับจำเลยที่ 1 ชดใช้ค่าเสียหายจำนวนดังกล่าวแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับจากวันละเมิดจนถึงวันฟ้องรวม 342 วันเป็นเงินดอกเบี้ย 133,084.85 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,026,884.85 บาทขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้เงินจำนวน 2,026,884.85 บาทแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน 1,893,800บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยทั้งสองขาดนัดยื่นคำให้การ และขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน1,600,000 บาท แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ย
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ทรัพย์สินของโจทก์ที่ถูกละเมิดเป็นรถยนต์บรรทุกช่วยรบขนาด 1.1 ตันรุ่นยูนีมอก ยี่ห้อเมอร์ซีเดส เบนซ์สำหรับใช้ปฏิบัติการในการรบที่โจทก์เพิ่งซื้อมาใหม่เป็นพิเศษจากประเทศเยอรมันตะวันตกในราคา 1,600,000 บาท และโจทก์จะนำไปใช้ปฏิบัติงานของโจทก์ ซึ่งบริษัทธนบุรีพาณิชย์ จำกัด ได้ตรวจสอบความเสียหายปรากฏว่ารถได้รับความเสียหายรวม 52 รายการต้องใช้ชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่ต้องสั่งจากประเทศเยอรมันตะวันตกโดยตรงเท่านั้น เมื่อรวมค่าขนส่งทางทะเลและค่าภาษีนำเข้าแล้วเป็นเงิน 1,773,800 บาท และค่าแรงอีก 120,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,893,800 บาท จึงถือว่าโจทก์เสียหายเป็นเงิน 1,893,800บาท การที่โจทก์ขอค่าเสียหายเป็นค่าซ่อมจำนวนดังกล่าว จึงเป็นค่าเสียหายที่ตรงต่อความจริงและโจทก์มีสิทธิจะได้รับค่าเสียหายทั้งสองจำนวนตามฟ้อง ที่ศาลล่างทั้งสองกำหนดค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์เท่าราคารถยนต์จำนวน 1,600,000 บาท ไม่เหมาะสม
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน2,026,884.85 บาท แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยต่อปีในต้นเงิน1,893,800 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ

Share