คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2738/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่นมีบทลงโทษให้ปรับเป็นรายวันตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคารฯ มาตรา 67, 69, และ 70 โจทก์บรรยายฟ้องในความผิดฐานนี้ว่า เมื่อระหว่างวันที่ 1 ถึงวันที่18 กันยายน 2524 จำเลยซึ่งได้รับคำสั่งจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นแจ้งให้จำเลยระงับการก่อสร้างและจำเลยได้รับทราบคำสั่งดังกล่าวแล้วจำเลยฝ่าฝืนคำสั่งโดยไม่ระงับการก่อสร้างภายในระยะเวลาดังกล่าว ดังนี้คำฟ้องของโจทก์ไม่ได้แสดงให้เห็นว่าจำเลยทราบคำสั่งวันใด และฝ่าฝืนคำสั่งวันใด การที่โจทก์กล่าวรวมกันมาทั้งวันทราบคำสั่งและวันฝ่าฝืนคำสั่งว่าอยู่ในระยะเวลาเดียวกันเช่นนี้ จำเลยอาจทราบคำสั่งในวันสุดท้ายของระยะเวลาที่โจทก์กล่าวหาจำเลยก็ได้ เมื่อโจทก์ไม่บรรยายในคำฟ้องว่าจำเลยฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่นวันใดแม้จำเลยจะให้การรับสารภาพ ศาลก็ไม่มีทางลงโทษปรับจำเลยเป็นรายวันตลอดเวลาที่ฝ่าฝืนตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ได้ คำฟ้องของโจทก์จึงไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๒๔ จำเลยซึ่งเป็นผู้ครอบครองอาคารเพื่อพาณิชยกรรมเลขที่ ๑๑๘/๕ หมู่ที่ ๑๐ ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ได้ดัดแปลงอาคารดังกล่าวจากอาคารไม้ชั้นเดียวเป็นอาคารแบบคอนกรีตเสริมเหล็กเป็นบางส่วนโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นและเมื่อระหว่างวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๒๔ เวลากลางวันถึงวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๒๔ เวลากลางวัน จำเลยซึ่งได้รับคำสั่งจากปลัดเมืองพัทยาในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่นแจ้งให้จำเลยระงับการก่อสร้างและรื้อถอนอาคารที่จำเลยดัดแปลง และจำเลยได้ทราบคำสั่งดังกล่าวแล้วแต่ฝ่าฝืนคำสั่งโดยไม่ระงับการก่อสร้างและไม่ยอมรื้อถอนอาคารส่วนที่ดัดแปลงภายในระยะเวลาดังกล่าว ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๑๑ ลงวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๔ ข้อ ๒ พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๒๒, ๔๐ วรรคแรก, ๔๒, ๖๕, ๖๗, ๖๙ และ ๗๐
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคารพ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๒๒, ๗๐ ปรับ ๑๐,๐๐๐ บาท กระทงหนึ่ง ลงโทษตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔๐ วรรคแรก, ๔๒, ๖๗, ๖๙ปรับวันละ ๑,๐๐๐ บาท รวม ๑๘ วันเป็นเงิน ๑๘,๐๐๐ บาท อีกกระทงหนึ่ง รวม๒ กระทง ปรับ ๒๘,๐๐๐ บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๗๘ คงปรับ ๑๔,๐๐๐ บาท
โจทก์อุทธรณ์ ขอให้ลดโทษปรับจำเลยฐานฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่นเป็นสิบเท่า
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า คำฟ้องฐานฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่นไม่แน่ชัดว่าจำเลยได้รับคำสั่งวันใดและขัดคำสั่งวันใดในระหว่างวันที่ ๑ ถึงวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๒๔ เป็นคำฟ้องที่เคลือบคลุมพิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์ในความผิดตามมาตรา ๔๐ แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่นที่โจทก์ฟ้องมีบทลงโทษให้ปรับเป็นรายวันตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๖๗, ๖๙ และ ๗๐ โจทก์บรรยายฟ้องในความผิดฐานนี้ว่า เมื่อระหว่างวันที่ ๑ ถึงวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๒๔ จำเลยซึ่งได้รับคำสั่งจากปลัดเมืองพัทยาในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่นได้มีคำสั่งแจ้งให้จำเลยระงับการก่อสร้างและจำเลยได้รับทราบคำสั่งดังกล่าวแล้ว จำเลยฝ่าฝืนคำสั่งโดยไม่ระงับการก่อสร้างภายในระยะเวลาดังกล่าว ดังนี้ คำฟ้องของโจทก์ไม่ได้แสดงให้เห็นว่าจำเลยทราบคำสั่งวันใด และฝ่าฝืนคำสั่งวันใด การที่โจทก์กล่าวรวมกันมาทั้งวันทราบคำสั่งและวันฝ่าฝืนคำสั่งว่าอยู่ในระยะเวลาเดียวกันเช่นนี้ จำเลยอาจทราบคำสั่งเมื่อวันที่ ๑๘ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของระยะเวลาที่โจทก์กล่าวหาจำเลยก็ได้ โจทก์ยืนยันว่าจำเลยทราบคำสั่งและฝ่าฝืนคำสั่งได้เพราะหลักฐานอยู่ที่ฝ่ายโจทก์ เมื่อโจทก์ไม่บรรยายในคำฟ้องว่าจำเลยฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่นวันใด แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพ ศาลก็ไม่มีทางลงโทษปรับจำเลยเป็นรายวันตลอดเวลาที่ฝ่าฝืนตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ได้คำฟ้องโจทก์จึงไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕๘(๕)
พิพากษายืน

Share