คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1640/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คู่ความที่ฎีกากล่าวท้าวเหตุผลรายละเอียดตามฟ้องอุทธรณ์โดยขอให้ถือเอาเป็นส่วนหนึ่งแห่งฎีกาเช่นนี้ จะถือว่าเป็นการกล่าวข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายโดยชัดแจ้งในฎีกาหาได้ไม่ เป็นฎีกาที่ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากคดีแพ่งแดงที่ 59/2493 ของศาลจังหวัดนนทบุรีระหว่างคู่ความเดียวกัน คดีนั้นถึงที่สุดชั้นศาลฎีกาพิพากษาว่า จำเลยได้ยกที่พิพาทให้เป็นทุนแก่โจทก์และนางใหญ่ภริยาโจทก์ซึ่งเป็นบุตรีของจำเลยโจทก์และนางใหญ่ได้ครอบครองมากว่า 10 ปีแล้ว ที่ย่อมตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่โจทก์และนางใหญ่เป็นสินบริคณห์นางใหญ่ตาย ส่วนของนางใหญ่เป็นมรดกแก่ทายาทซึ่งจำเลยมีสิทธิได้รับส่วนด้วย โจทก์จะขอแบ่งแยกเอาเป็นกรรมสิทธิ์แต่ผู้เดียวหาได้ไม่คดีไม่มีประเด็นและไม่สะดวกจะวินิจฉัยถึงส่วนมรดก จึงให้ยกฟ้องแต่ไม่ตัดสิทธิ์โจทก์ที่จะฟ้องเรียกทรัพย์ระหว่างสามีภริยาและในทางมรดกต่อไป

โจทก์จึงมาฟ้องคดีนี้ขึ้น ขอให้ศาลขายทอดตลาดสวนพิพาทเอาเงินแบ่งให้โจทก์กึ่งหนึ่งและในฐานะเป็นมรดก 1 ใน 6

จำเลยทั้งสองต่อสู้หลายประการ

ในระหว่างคดี นายสมาน เด็กชายปราโมทย์ เด็กหญิงบุบผาบุตรนางใหญ่ซึ่งเกิดกับโจทก์ (โดยโจทก์เป็นผู้แทนโดยชอบธรรม) ยื่นคำร้องขอรับส่วนแบ่งมรดกนางใหญ่ด้วย

นอกนั้นยังมีพระภิกษุเปียกยื่นคำร้องเข้าเป็นจำเลยร่วมอ้างว่ามีชื่อถือกรรมสิทธิ์ร่วมกับจำเลยในโฉนดรายพิพาท

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้แบ่งที่พิพาทออกจากที่ดินโฉนดที่ 2740 และขายทอดตลาด ได้เงินเท่าใดให้แบ่งเป็น 12 ส่วน ให้โจทก์ได้ 7 ส่วน จำเลยที่ 1 ที่ 2 และผู้ร้องทั้งสาม (คือบุตรโจทก์กับนางใหญ่) ได้คนละส่วน

จำเลยที่ 1 ที่ 2 เท่านั้นอุทธรณ์ซึ่งศาลอุทธรณ์เห็นชอบตามศาลชั้นต้น คงแก้ไขเกี่ยวกับเรื่องค่าธรรมเนียมเล็กน้อย

จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกาต่อมา

ฎีกาของจำเลยคงกล่าวท้าวถึงข้ออุทธรณ์ว่า จำเลยอุทธรณ์มีประเด็นสำคัญ คือ 1. ฟ้องของโจทก์ส่วนที่ว่าโจทก์ได้กรรมสิทธิ์เป็นฟ้องซ้ำ 2. คดีในส่วนที่เกี่ยวกับมรดกนางใหญ่ขาดอายุความ 3. โจทก์สละสิทธิ์ละทิ้งที่พิพาทขาดสิทธิครอบครองและขาดสิทธิ์ฟ้องมรดก 4. ฟ้องโจทก์ไม่ชัดแจ้งแห่งข้อหา ดังเหตุผลรายละเอียดตามฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองซึ่งจำเลยถือว่าเป็นส่วนหนึ่งแห่งฎีกานี้ แต่ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นด้วย จำเลยเห็นว่า คำพิพากษาของศาลทั้งสองไม่ชอบด้วยเหตุผลในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย จึงฎีกาคัดค้านขึ้นมาตามเหตุผลที่ได้อุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้นมาแล้ว

ศาลฎีกาเห็นว่า การที่กล่าวท้าวถึงเหตุผลรายละเอียดตามฟ้องอุทธรณ์โดยขอให้ถือเอาเป็นส่วนหนึ่งแห่งฎีกาเช่นนี้ จะถือว่าเป็นการกล่าวข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายโดยชัดแจ้งในฎีกาหาได้ไม่ฎีกาจำเลยต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249

Share