คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2725/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ลูกหนี้ทำหนังสือรับสภาพหนี้เงินดอกเบี้ยที่ค้างให้โจทก์ ต่อมาลูกหนี้ตายโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยซึ่งเป็นทายาทของลูกหนี้ให้รับผิดต่อโจทก์เกินกว่า 5 ปีนับแต่วันที่ลูกหนี้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ คดีโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 166

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นภรรยาของนายประมุข เลขะกุล ซึ่งถึงแก่กรรมไปแล้ว จำเลยได้รับมรดกและครอบครองทรัพย์สินของนายประมุข เมื่อวันที่ 12กรกฎาคม 2503 นายประมุขได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้ไว้แก่โจทก์ว่ายังเป็นหนี้โจทก์อยู่ 60,000 บาท ตั้งแต่วันทำหนังสือรับสภาพหนี้จนถึงวันฟ้องเป็นเวลา9 ปี 2 เดือน นายประมุขไม่เคยชำระเงินดังกล่าวและดอกเบี้ยให้แก่โจทก์เลยโจทก์เคยทวงถามนายประมุขและจำเลยหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับชำระ จึงขอให้ศาลบังคับ

จำเลยให้การว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม และขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง

ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายตามที่จำเลยยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้

ในวันนัดพร้อม จำเลยรับข้อเท็จจริงตามสำเนาหนังสือสัญญาท้ายฟ้อง โจทก์ขออ้างเอกสารรับสภาพหนี้ตัวจริง โจทก์จำเลยต่างแถลงไม่สืบพยาน

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม และไม่ขาดอายุความพิพากษาให้จำเลยชำระต้นเงินตามสัญญาให้โจทก์ 60,000 บาท

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม แต่ฟ้องโจทก์ขาดอายุความพิพากษายกฟ้อง

รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ทำความเห็นแย้งว่า ฟ้องโจทก์ไม่ขาดอายุความ ควรพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกาว่าฟ้องโจทก์ไม่ขาดอายุความ

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เอกสารที่โจทก์และนายประมุขทำขึ้นนั้นเป็นหนังสือรับสภาพหนี้เงินดอกเบี้ยที่ค้างจำนวน 60,000 บาท โจทก์ฟ้องเรียกเงินจากจำเลยผู้เป็นทายาทของนายประมุข โดยอ้างว่านายประมุขทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้โจทก์ไว้ คดีโจทก์จึงไม่มีประเด็นวินิจฉัยว่าหนังสือนี้จะเข้าลักษณะสัญญาประนีประนอมยอมความด้วยหรือไม่ เมื่อเป็นหนังสือรับสภาพหนี้เงินดอกเบี้ยที่ค้าง โจทก์ฟ้องคดีเกินกว่า 5 ปี นับแต่วันที่นายประมุข ทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้โจทก์ คดีของโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 166

พิพากษายืน

Share