คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2720/2515

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คู่ความตกลงกันขอให้ศาลไปดูสภาพที่พิพาทที่ดินของ ค.ที่ดินของจำเลยที่ 2 และที่ดินรอบๆ ประกอบกัน ถ้าศาล เห็นว่าที่พิพาทและที่ซึ่งโจทก์ว่าเป็นของ ค. และของจำเลยที่ 2 มีลักษณะเป็นสวนยางแปลงเดียวกัน โจทก์ยอมแพ้ ถ้าศาลเห็นว่าเป็นคนละแปลงโจทก์ชนะ มีลักษณะเหมือนกับคำท้าของคู่ความว่า จะยอมแพ้ชนะกันอย่างไร เท่ากับว่าถ้าศาลมีความเห็นอย่างหนึ่งอย่างใด ดังที่ได้ตกลงกันไว้ คู่ความก็ยอมให้แพ้ ชนะ กันตามความเห็นของศาล เมื่อศาลไปตรวจดูแล้วเห็นว่า เป็นสวนยางแปลงเดียวกัน โจทก์ก็ต้องแพ้โจทก์จะฎีกาเถียงข้อเท็จจริงในการที่ศาลไปดูสภาพที่ดินว่าควรจะเป็นคนละแปลง ฟังไม่ขึ้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินสวนยาง จำเลยทั้งสองได้บุกรุกเข้าไปปลูกขนำในที่ดินของโจทก์ โจทก์ได้ร้องเรียนให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีแล้ว แต่ศาลพิพากษายกฟ้อง การกระทำของจำเลยเป็นเหตุให้โจทก์เสียหาย ขอให้ขับไล่จำเลยทั้งสอง

จำเลยทั้งสองให้การว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม จำเลยไม่เคยบุกรุกเข้าไปปลูกขนำในที่ดินโจทก์ จำเลยที่ 2 มีสวนยางหนึ่งแปลงอยู่ติดกับที่นายรุ่น นางฉาย บิดามารดาโจทก์ นางฉายขอรับรองการทำประโยชน์ ได้นำรังวัดรุกล้ำเข้ามาในที่ดินจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 ได้คัดค้านแล้ว โจทก์แถล้งกล่าวหาว่าจำเลยบุกรุกทำให้เสียทรัพย์ซึ่งศาลได้ยกฟ้องไปแล้ว จำเลยที่ 1 ไม่เคยบุกรุกหรือปลูกขนำกับจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 ปลูกขนำในที่ของจำเลยที่ 2 เอง คดีโจทก์ขาดอายุความ

ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์ได้สามปาก คู่ความตกลงกันขอให้ศาลไปดูสภาพของที่พิพาท ที่ดินของนายคุด ที่ดินของจำเลยที่ 2 และที่ดินรอบ ๆ ประกอบกัน ถ้าศาลเห็นว่าที่พิพาทและที่ซึ่งโจทก์ว่าเป็นของนายคุดและของจำเลยที่ 2 มีลักษณะเป็นสวนยางแปลงเดียวกันโจทก์ยอมแพ้ ถ้าศาลเห็นว่าเป็นคนละแปลง โจทก์ชนะ ศาลได้ไปตรวจสภาพของที่แล้วเห็นว่า ที่พิพาทและที่ซึ่งโจทก์ว่าเป็นของนายคุดกับที่ของจำเลยที่ 2 น่าจะเป็นสวนยางแปลงเดียวกัน โจทก์จึงต้องแพ้พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อโจทก์จำเลยตกลงกันให้ศาลไปตรวจดูสภาพของที่ดิน ถ้าศาลเห็นว่าที่พิพาทและที่ซึ่งโจทก์ว่าเป็นของนายคุดและของนายแนมมีลักษณะเป็นสวนยางแปลงเดียวกัน โจทก์ยอมแพ้ ศาลได้ไปตรวจดูสภาพของที่ดินตามที่คู่ความตกลงกันดังกล่าวแล้ว เห็นว่าที่พิพาทและที่ซึ่งโจทก์ว่าเป็นของนายคุดและของจำเลย น่าจะเป็นสวนยางแปลงเดียวกัน โจทก์จึงต้องแพ้ตามที่ยอมไว้ในข้อตกลงนั้นซึ่งมีลักษณะเหมือนกับคำท้าของคู่ความว่าจะยอมแพ้ชนะกันอย่างไรในคดีนี้จึงเท่ากับว่าถ้าศาลมีความเห็นอย่างหนึ่งอย่างใด ดังที่ได้ตกลงกันไว้ คู่ความก็ยอมให้แพ้ชนะกันตามความเห็นของศาลที่ได้ไปตรวจดูสภาพของที่พิพาทและที่ข้างเคียงมาแล้วนั้น โจทก์ฎีกาเถียงข้อเท็จจริงในการที่ศาลไปดูสภาพที่ดินว่าควรจะเป็นคนละแปลงจึงฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

Share