แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฎีกาของโจทก์มิได้กล่าวอ้างว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาไม่ถูกต้องอย่างไร คงคัดลอกข้อความในอุทธรณ์มาไว้ในฎีกาเท่านั้น จึงเป็นฎีกาที่มิได้คัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 216 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยออกเช็ค 2 ฉบับโดยเจตนามิให้มีการใช้เงินตามเช็ค ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยออกเช็คแก่โจทก์โดยไม่มีมูลหนี้ต่อกันแต่ออกเช็คเพื่อค้ำประกันหนี้ผู้อื่นเท่านั้น จำเลยจึงไม่มีความผิดตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาในชั้นนี้ตามฎีกาของโจทก์ซึ่งศาลชั้นต้นสั่งรับเป็นปัญหาข้อกฎหมายเพียงประการเดียวว่าโจทก์ฟ้องว่าจำเลยออกเช็คเพื่อชำระหนี้โจทก์ แต่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าเช็คที่จำเลยออกให้โจทก์นั้นเป็นเช็คที่ออกให้เพื่อเป็นการค้ำประกัน จึงเป็นการพิพากษานอกสำนวนนั้น พิเคราะห์แล้วปัญหาตามฎีกาของโจทก์ดังกล่าวโจทก์ได้อุทธรณ์มาแล้วและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยให้การปฏิเสธฟ้องโจทก์และนำสืบว่าจำเลยออกเช็คพิพาทให้โจทก์เพือ่เป็นการค้ำประกันหนี้ค่าเช่าซื้อที่นายชำนาญค้างชำระแก่โจทก์ และศาลชั้นต้นเชื่อตามข้อเท็จจริงที่จำเลยนำสืบจึงไม่เป็นการพิพากษานอกสำนวน ดังนี้ เมื่อฎีกาของโจทก์มิได้กล่าวอ้างว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีนี้ไม่ถูกต้องอย่างไรคงคัดลอกข้อความในอุทธรณ์มาไว้ในฎีกาเท่านั้น ฎีกาของโจทก์จึงเป็นฎีกาที่มิได้คัดค้านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์เป็นฎีกาที่ไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา216 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกฎีกาโจทก์.