แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้ศาลชั้นต้นจะสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จและนัดฟังคำพิพากษาแล้ว แต่ก่อนศาลมีคำพิพากษา ศาลจะต้องตรวจสำนวนไตร่ตรองพิจารณาและอาจสืบพยานของศาลเพิ่มเติมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 228 ได้ ฉะนั้นก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาจึงเรียกว่าคดีอยู่ในระหว่างพิจารณา เมื่อมีเหตุอันควรโจทก์ย่อมขอเพิ่มเติมฟ้องได้
โจทก์ขอเพิ่มเติมฟ้องโดยอ้างว่าพิมพ์ข้อความเกี่ยวกับสถานที่เกิดเหตุตกไป นับว่ามีเหตุอันสมควรที่โจทก์จะขอเพิ่มเติมฟ้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 163 สถานที่ซึ่งเกิดการกระทำผิดเป็นรายละเอียดซึ่งต้องแถลงในฟ้อง โจทก์ขอเพิ่มเติมฟ้องก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาไม่ถือว่าทำให้จำเลยเสียเปรียบ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 164 เมื่อจำเลยให้การปฏิเสธลอยและนำสืบฐานที่อยู่แสดงว่าจำเลยเข้าใจข้อหาของโจทก์ดี ไม่ว่าโจทก์จะได้บรรยายสถานที่เกิดการกระทำผิดมาในฟ้องตั้งแต่แรกหรือไม่ ที่โจทก์ขอเพิ่มเติมสถานที่กระทำผิดจึงไม่ทำให้จำเลยหลงต่อสู้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและเพิ่มเติมฟ้องว่า จำเลยบังอาจมีไว้ในครอบครองซึ่งอาวุธปืนพกและพาอาวุธปืนดังกล่าวไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และจำเลยกับพวกอีกคนหนึ่งร่วมกันใช้กำลังประทุษร้ายนายสำรวยและนายชดผู้เสียหาย เป็นเหตุให้ผู้เสียหายทั้งสองได้รับอันตรายแก่กาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๙๕, ๓๗๑ พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๗, ๘ ทวิ, ๗๒, ๗๒ ทวิ ฯลฯ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่า โจทก์ยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมสถานที่เกิดเหตุในฟ้องภายหลังการสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จแล้ว ทำให้จำเลยเสียเปรียบและหลงต่อสู้คดี
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้ศาลชั้นต้นจะสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จและนัดฟังคำพิพากษาแล้วก็ดี แต่ก่อนศาลมีคำพิพากษา ศาลจะต้องตรวจสำนวนไตร่ตรองพิจารณาและอาจสืบพยานของศาลเพิ่มเติมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๒๘ ก็ได้ฉะนั้นก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาจึงเรียกว่าคดีอยู่ในระหว่างพิจารณา โจทก์ขอเพิ่มเติมฟ้องโดยอ้างว่าพิมพ์ข้อความเกี่ยวกับสถานที่เกิดเหตุตกไป นับว่ามีเหตุอันสมควรที่โจทก์จะขอเพิ่มเติมฟ้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๓ มีปัญหาต่อไปว่าการที่โจทก์ขอเพิ่มเติมฟ้องดังกล่าวทำให้จำเลยเสียเปรียบและหลงต่อสู้หรือไม่เห็นว่าสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำผิด เป็นรายละเอียดซึ่งต้องแถลงในฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕๘ เมื่อโจทก์ขอเพิ่มเติมฟ้องก่อนศาลชั้นต้นพิพากษา จึงไม่ถือว่าทำให้จำเลยเสียเปรียบตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๔ ส่วนจะทำให้จำเลยหลงต่อสู้หรือไม่นั้นเห็นว่าจำเลยให้การปฏิเสธลอยและนำสืบต่อสู้อ้างฐานที่อยู่ว่าในวันเกิดเหตุจำเลยขับรถโดยสารวิ่งระหว่างปากทางบางขุนนนท์ถึงวัดประดู่จำเลยมิได้กระทำผิดตามฟ้อง แสดงว่าจำเลยเข้าใจข้อหาของโจทก์ดี ไม่ว่าโจทก์จะได้บรรยายสถานที่เกิดการกระทำผิดมาในฟ้องตั้งแต่แรกหรือไม่ ก็เป็นที่เห็นได้ว่าจำเลยปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำผิดเพราะจำเลยมีฐานที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ฉะนั้นที่โจทก์ขอเพิ่มเติมสถานที่กระทำผิด จึงไม่ทำให้จำเลยหลงต่อสู้แต่อย่างใด
พิพากษายืน