แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ถ้าเจ้าหนี้สำคัญผิดว่าลูกหนี้มีอำนาจทำการกู้ยืมแทนบริษัทได้ซึ่งความจริงลูกหนี้ไม่มีอำนาจทำเช่นนั้นได้เจ้าหนี้มีหน้าที่ต้องพิสูจน์ว่า ผู้ค้ำประกันได้รู้เหตุสำคัญผิดแล้วในขณะที่เข้าทำสัญญาผูกพันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 681 วรรคสาม
ฟ้องโจทก์ยืนยันว่า ผู้กู้ยืมอันแท้จริงไม่ใช่ลูกหนี้ของโจทก์ก็เป็นเหตุให้ผู้ค้ำประกันหนี้รายนั้นไม่มีทางจะไปไล่เบี้ยเอาจากผู้กู้และไม่มีสิทธิอันใดเหนือผู้กู้ที่จะเข้ารับช่วงมาจากโจทก์ได้โดยสิ้นเชิง ผู้ค้ำประกันจึงหลุดพ้นความรับผิดตามมาตรา 697
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า นายเลี่ยงเซี้ยงได้ยืมเงินโจทก์ 5,000 บาทอ้างว่าจะนำไปมอบให้บริษัทจงนำจำกัด และจำเลยเป็นผู้ค้ำประกันต่อมานายเลี่ยงเซี้ยงหลบหนีไป จำเลยต้องรับผิดในฐานะผู้ค้ำประกันจึงขอให้จำเลยใช้ต้นเงินและดอกเบี้ย
จำเลยให้การต่อสู้ว่าเป็นผู้ค้ำประกันบริษัทจงนำจำกัด มิได้ค้ำประกันนายเลี่ยงเซี้ยง ๆ ยังมีตัวอยู่ในพระราชอาณาจักร
ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยาน แล้ววินิจฉัยว่าบริษัทจงนำจำกัดเป็นผู้กู้เงินจากโจทก์ จำเลยเป็นผู้ค้ำประกัน จำเลยจึงไม่ต้องรับผิด พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยต่อสู้ว่าลูกหนี้ยังมีทางชำระหนี้ได้จึงต้องฟังข้อเท็จจริงกันต่อไป พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้พิจารณาข้อเท็จจริงว่าลูกหนี้ยังมีทางชำระหนี้หรือไม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ไม่ได้ฎีกา ประเด็นจึงยุติว่าบริษัทจงนำจำกัดเป็นผู้กู้ยืม แม้จะฟังว่าการกู้รายนี้เกิดจากความสำคัญผิด โดยเข้าใจว่านายเลี่ยงเซี้ยงมีอำนาจกู้แทนบริษัทจงนำจำกัดได้ ซึ่งความจริงนายเลี่ยงเซี้ยงไม่มีอำนาจเช่นนั้นโจทก์ก็มีหน้าที่ต้องพิสูจน์ว่าผู้ค้ำประกันรู้เหตุสำคัญผิดแล้วในขณะที่เข้าทำสัญญาผูกพันตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 681 วรรค 3 เมื่อโจทก์ไม่ต้องขอสืบตามประเด็นของโจทก์ก็ถือว่าโจทก์สืบไม่สมฟ้อง
อนึ่งตามคำฟ้องโจทก์รับรองว่าบริษัทจงนำจำกัดไม่ใช่ลูกหนี้ของโจทก์ จึงเป็นเหตุให้จำเลยในฐานะผู้ค้ำประกันไม่มีทางจะไล่เบี้ยเอาจากบริษัทจงนำจำกัด และไม่มีสิทธิอันใดเหนือบริษัทจงนำจำกัดที่จะเข้ารับช่วงมาจากโจทก์ได้โดยสิ้นเชิง จำเลยในฐานะผู้ค้ำประกันจึงหลุดพ้นความรับผิดตามมาตรา 697พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง