แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ที่ครอบครองที่ดินซึ่งไม่มีหนังสือสำคัญนั้นจะมาร้องต่อศาลขอให้แสดงว่าผู้นั้นเป็นเจ้าของที่ดิน ขอให้ศาลสั่งให้เจ้าพนักงานที่ดินออกโฉนดให้โดยยังไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานไม่ยอมออกโฉนดให้หรือว่ามีผู้ใดโต้แย้งประการใดนั้นหาได้ไม่.
ย่อยาว
เดิมผู้ร้องได้ยื่นคำร้องต่อศาลว่าที่พิพาทนายหว่างปู่ผู้ร้องได้ครอบครองทำประโยชน์มาหลายสิบปี จนเมื่อ ๒๐ ปีมานี้นายหว่างได้ยกที่พิพาทให้แก่ผู้ร้อง ๆ ได้ครอบครองมาประมาณรวมกันกว่า ๔๐ ปีแล้ว ผู้ร้องประสงค์จะขอออกโฉนดจึงขอให้ศาลมีคำสั่งว่าที่พิพาทนี้ผู้ร้องได้สิทธิครอบครองและกรรมสิทธิ์แล้วตาม ป.พ.พ. ม.๑๓๖๕๗,๑๓๘๒ ขอให้แจ้งไปยังหอทะเบียนที่ดินเพื่อดำเนินการรังวัดออกโฉนดให้ผู้ร้องต่อไป
ในวันนัดไต่สวนผู้คัดค้านได้ยื่นคำคัดค้านว่าที่พิพาทเป็นที่ดินมีใบไต่สวนและโฉนดแล้ว มีชื่อนายโปรดสามีผู้คัดค้านและผู้คัดค้านเป็นเจ้าของ นายโปรดตายจึงตกเป็นมรดกแก่ผู้คัดค้านกับนายหว่างบิดานายโปรยปกครองร่วมกันมา เมื่อนายหว่างตายแล้วก็เป็นมรดกได้แก่ผู้คัดคัานแต่ผู้เดียว โจทก์ไม่เคยครอบครองในฐานเป็นเจ้าของ คดีของผู้ร้องขาดอายุความแล้ว
ศาลชั้นต้นสั่งให้ดำเนินคดีอย่างมีข้อพิพาทและวินิจฉัยว่าการที่ผู้ร้องผู้เป็นบุตรดำเนินคดีกับผู้คัดค้านซึ่งเป็นมารดานั้นต้องห้ามตาม ป.พ.พ. ม.๑๕๓๔ พิพากษาให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าตามคำร้องของผู้ร้องนั้นไม่มีทางจะมาขอใช้สิทธิทางศาลอย่างคดีไม่มีข้อพิพาท ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยว่าเป็นอุหลุมพิพากษายืนให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าที่พิพาทเป็นที่ดินยังไม่มีหนังสือสำคัญการขอออกโฉนดจึงต้องทำตามวิธีการใน พ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ ๗) พ.ศ.๒๔๘๖ และกฎกระทรวงมหาดไทย จะขอให้ศาลสั่งได้ไม่ ต่อเมื่อเจ้าพนักงานไม่ออกโฉนดให้หรือมีผู้โต้แย้งประการใดจึงชอบที่จะมาดำเนินคดีทางศาลเป็นคดีมีข้อพิพาท ฉนั้นคดีนนี้จึงเป็นการไม่ชอบด้วย ป.วิ.แพ่ง ม.๕๕ แม้ศาลชั้นต้นจะได้รับคำร้องไว้และพิพากษาคดีไปแล้วก็ดี แต่ศาลฎีกาเห็นว่าไม่ควรรับไว้พิจารณาจึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์.