คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2705/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่โจทก์มอบอำนาจให้ พ. ฟ้องคดีโดยระบุในหนังสือมอบอำนาจที่ยื่นพร้อมคำฟ้องว่าให้ฟ้องคดีต่อศาลแพ่งธนบุรี มิใช่ศาลแพ่งที่โจทก์ได้ยื่นคำฟ้องนั้นเป็นการระบุชื่อศาลจะฟ้องร้องผิดพลาด อันเป็นข้อบกพร่องเกี่ยวกับอำนาจฟ้องของผู้รับมอบอำนาจ แต่ต่อมาก่อนส่งหมายนัดและสำเนาคำฟ้องให้จำเลย โจทก์ได้ยื่นใบมอบอำนาจใหม่ต่อศาลระบุว่ามอบอำนาจให้ฟ้องจำเลยต่อศาลแพ่ง ถือได้ว่าโจทก์ได้แก้ไขข้อบกพร่องเกี่ยวกับอำนาจฟ้องของผู้รับมอบอำนาจดังกล่าวแล้ว โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยทั้งสองเด็ดขาดและพิพากษาให้ล้มละลาย
จำเลยที่ 1 ไม่ยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ 2 ให้การว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง จำเลยที่ 2ไม่ได้เป็นหนี้โจทก์ และมีทรัพย์สินพอที่จะชำระหนี้โจทก์ได้ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยทั้งสองเด็ดขาด
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในปัญหาแรกโจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่เห็นว่า การที่โจทก์มอบอำนาจให้นายพิทยาฟ้องคดีนี้โดยระบุในหนังสือมอบอำนาจว่าให้ฟ้องคดีต่อศาลแพ่งธนบุรีนั้น เป็นการระบุชื่อศาลที่จะฟ้องร้องผิดพลาดอันเป็นข้อบกพร่องเกี่ยวกับอำนาจฟ้องของผู้รับมอบอำนาจ แต่ต่อมาก่อนส่งหมายนัดและสำเนาคำฟ้องให้จำเลย โจทก์ได้ยื่นใบมอบอำนาจใหม่ โดยระบุว่ามอบอำนาจให้ฟ้องจำเลยทั้งสองต่อศาลชั้นต้น (ศาลแพ่ง) ถือได้ว่าโจทก์ได้แก้ไขข้อบกพร่องเกี่ยวกับอำนาจฟ้องของผู้รับมอบอำนาจดังกล่าวแล้ว โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องคดีนี้ ที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยที่ 2 ในปัญหานี้ฟังไม่ขึ้น
ปัญหาสุดท้าย จำเลยที่ 2 มีหนี้สินล้นพ้นตัวหรือไม่
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 2 ไม่มีทรัพย์สินเพียงพอที่จะชำระหนี้ให้โจทก์ได้ จำเลยที่ 2เป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว
พิพากษายืน

Share