คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 269/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อโจทก์จ่ายเงินตามเช็คที่จำเลยลงลายมือชื่อสั่งจ่ายในฐานะกรรมการบริษัทค.ให้เจ้าหนี้บริษัทค. เป็นการสมประโยชน์ของบริษัท ค. แล้ว แม้โจทก์จะหักเงินมาชำระตามเช็คผิดบัญชีก็ เป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับบริษัท ค. กรณีไม่อาจถือได้ว่าจำเลย ซึ่ง เป็นเพียงกรรมการบริษัท ค. ได้ลาภงอกจากการนั้นเงินซึ่งโจทก์ได้จ่ายตามเช็ค ไม่ใช่ลาภมิควรได้สำหรับจำเลยตาม ป.พ.พ. มาตรา 406โจทก์เรียกคืนจากจำเลยไม่ได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า บริษัทคลังสินค้าสินสืบสุข จำกัด เปิดบัญชีเงินฝากกระแสรายวันเลขที่ 1135 ต่อโจทก์ ผู้มีอำนาจสั่งจ่ายคือจำเลยนายอภิชา ขาวทอง และนายสมนึก คลอดเพ็ญมีเงื่อนไขว่า นายอภิชาคนเดียวพร้อมตราประทับสั่งจ่ายได้ หรือจำเลยกับนายสมนึกพร้อมตราประทับหรือนายอภิชากับนายสมนึกพร้อมตราประทับมีอำนาจสั่งจ่ายได้และนายอภิชาเปิดบัญชีออมทรัพย์เลขที่ 7603 เงื่อนไขว่า จำเลยเป็นผู้มีอำนาจเบิกถอนเงินได้แต่ผู้เดียว แล้วจำเลยทำหนังสือให้ความยินยอมแก่โจทก์ว่า กรณีจำเลยสั่งจ่ายเช็ค บัญชีเลขที่ 1135 เงินไม่พอจ่าย ให้โจทก์หักเงินฝากจากบัญชีออมทรัพย์เลขที่ 7603 ได้วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2530 จำเลยออกเช็คบัญชี 1135 สั่งจ่ายเงิน30,000 บาท ให้แก่ผู้ถือ โจทก์ได้จ่ายเงินไปโดยบัญชีเลขที่ 1135 มีเงินไม่เพียงพอ โจทก์เจตนาหักเงินจากบัญชีเลขที่ 7603 แต่หักเงินผิดบัญชีโดยหักเงินจากบัญชีออมทรัพย์เลขที่ 6731 ซึ่งเป็นบัญชีของนายวิเชียร กิจวานิชย์ ต่อมาโจทก์ตรวจสอบบัญชีเลขที่ 7603 ของจำเลยพบว่ามีเงินไม่เพียงพอให้หักจ่ายกันได้ โจทก์มีหนังสือบอกกล่าวให้จำเลยและบริษัทคลังสินค้าสินสืบสุข จำกัดเจ้าของบัญชี ซึ่งจำเลยมีอำนาจสั่งจ่าย ให้นำเงินคืนโจทก์ แต่กลับแจ้งปิดบัญชี และเช็คที่จำเลยสั่งจ่ายดังกล่าวจำเลยลงลายมือชื่อผู้เดียวเป็นการผิดเงื่อนไข จำเลยต้องรับผิดเป็นส่วนตัว ขอให้บังคับจำเลยชดใช้เงิน 32,053.17 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละสิบห้าต่อปีจากต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่มีนิติกรรมใดผูกพันกับโจทก์เป็นส่วนตัวบัญชีเงินฝากกระแสรายวันเลขที่ 1135 ไม่เคยเป็นหนี้โจทก์ เช็คพิพาทตามฟ้องโจทก์ได้หักบัญชีกันเรียบร้อยก่อนจะหยุดเดินบัญชี จำเลยไม่ต้องชำระหนี้แก่โจทก์ฐานลาภมิควรได้ เพราะเช็คที่สั่งจ่ายเป็นเช็คที่ไม่ชอบ โจทก์ทราบดีแล้วว่าจำเลยแต่ลำพังไม่อาจสั่งจ่ายเช็คได้ การที่โจทก์ใช้เงินตามเช็คไปเป็นการกระทำตามอำเภอใจโดยรู้อยู่แล้วว่าไม่มีความผูกพันจะต้องจ่ายโจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกเงินคืนจากจำเลย โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกดอกเบี้ยตามฟ้องแม้จำเลยได้รับทรัพย์ใดไว้จากโจทก์ก็เป็นการรับไว้โดยสุจริตย่อมได้ดอกผลอันเกิดแต่ทรัพย์นั้นตลอดเวลาขอให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษากลับ ให้จำเลยชำระเงิน 30,000 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีจากต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาว่า จำเลยจะต้องคืนเงินจำนวน30,000 บาท ซึ่งโจทก์ได้ชดใช้นายวิเชียรไปหรือไม่ ได้ความจากนางสาวอรุณี ดาโลดม ผู้จัดการธนาคาร โจทก์ สาขาสุราษฎร์ธานี และนางสาวจงจิตร ออมทรัพย์สิน ซึ่งทำหน้าที่สมุห์บัญชีโจทก์สาขาสุราษฎร์ธานี ว่าการเปิดบัญชีกระแสรายวันเลขที่ 1135 ก็เพื่อประโยชน์ของบริษัทคลังสินค้าสินสืบสุข จำกัด ถ้าหากเจ้าหน้าที่ธนาคารโจทก์ตรวจพบว่าลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายตามเช็คไม่เหมือนกับลายมือชื่อในตัวอย่างที่ให้ไว้ต่อธนาคาร หรือไม่ตรงตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ธนาคารจะปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค โดยเหตุผลว่าลายมือชื่อไม่สมบูรณ์ ลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาทเอกสารหมายจ.7 มีเพียงลายมือชื่อจำเลยเท่านั้น แต่มีลักษณะคล้ายมีลายมือชื่อนายสมนึก คลอดเพ็ญอยู่ด้วย ซึ่งไม่เหมือนกับตัวอย่างลายมือชื่อเอกสารหมาย จ.5 เห็นว่าการที่โจทก์จ่ายเงินตามเช็คให้เจ้าหนี้บริษัทคลังสินค้าสินสืบสุข จำกัด ตามเช็คเอกสารหมายจ.7 ซึ่งมีตราบริษัทคลังสินค้าสินสืบสุข จำกัด ประทับคู่กับลายมือชื่อจำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายและตามใบหักเงินเอกสารหมาย จ.12เป็นการจ่ายเงินจากบัญชีเลขที่ 1135 เพื่อประโยชน์ของบริษัทคลังสินค้าสินสืบสุข จำกัด โดยอาศัยข้อตกลงกับบริษัทดังกล่าว ทั้งการที่จำเลยลงลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายก็เป็นการลงนามในฐานะกรรมการบริษัทคลังสินค้าสินสืบสุข จำกัด เมื่อฟังได้ว่าโจทก์ได้จ่ายเงินตามเช็คเป็นการผิดเงื่อนไขข้อตกลงตามคำขอเปิดบัญชีเงินฝากกระแสรายวันเอกสารหมาย จ.4 ตัวอย่างลายมือชื่อเอกสารหมาย จ.5 จึงเป็นการจ่ายเงินโดยไม่ชอบ โจทก์จะมีอำนาจหักเงินจากบัญชีเลขที่ 1135 หรือไม่เพียงใด เป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับบริษัทคลังสินค้าสืบสุข จำกัด และเมื่อฟังว่าโจทก์ได้จ่ายเงินตามเช็คเอกสารหมาย จ.7 เพื่อชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ของบริษัทคลังสินค้าสินสืบสุขจำกัด เป็นการสมประโยชน์ของบริษัทคลังสินค้าสินสืบสุข จำกัด กรณีจึงไม่อาจถือได้ว่าจำเลยซึ่งเป็นเพียงกรรมการบริษัทได้ลาภงอกจากการนั้นเงินจำนวน 30,000 บาท ซึ่งโจทก์ได้จ่ายตามเช็ค ไม่ใช่ลาภมิควรได้สำหรับจำเลย ตาม ป.พ.พ. มาตรา 406 โจทก์เรียกคืนจากจำเลยไม่ได้
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์.

Share