คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 269/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเจตนาพาข้าวสารออกนอกเขตต์ห้ามกักกันข้าว แต่ถูกจับเสียก่อนออกนอกเขตต์ ต้องมีความผิดฐานพยายามนำข้าวออกนอกเขตต์
การนำข้าวสารติดเรือไปเพื่อรับประทานในระหว่างทางนั้น ย่อมไม่มีผิดฐานนำข้าวออกนอกเขตต์ตาม พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว
เงินรางวัลในการจับกุมตาม พ.ร.บ.ให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิดนั้นบังคับให้จ่ายจากการขายของกลางหรือจากเงินค่าปรับที่ได้ชำระต่อศาล ศาลมีอำนาจสั่งจ่ายได้ หากระทบกระเทือนถึงจำเลยไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ลงโทษจำเลย แต่ไม่ได้ให้ริบข้าวของกลาง ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษตามศาลชั้นต้น เมื่อศาลฎีกาพิพากษาลงโทษจำเลยจะริบของกลางด้วยไม่ได้เพราะเกินคำขอของโจทก์.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยสมคบกันนำข้าวออกนอกเขตต์โดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าพนักงานจับได้ก่อนออกจากเขตต์ ขอให้ลงโทษ จ่ายเงินรางวัลแก่ผู้นำจับริบข้าวกับเรือของกลาง จำเลยให้การว่านายประสิทธิจำเลยเป็นเจ้าของเรือยนตร์รับจ้างเหมาโยงเรือ นางเยาว์จำเลยเช่าเรือนายประสิทธิจำเลยโยงเรือต่อข้างกระแซง และให้ข้าวรับประทาน 1 กระสอบ ส่วน 5 กระสอบนางเยาว์จำเลยจะนำไปรับประทาน และแบ่งระหว่างญาติ มิได้ซื้อขาย ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษปรับจำเลยทั้งสองฐานพยายามนำข้าวสารออกนอกเขตต์โดยไม่ได้รับอนุญาต เรือต่อกระแซงคืนเจ้าของ รับเรือยนตร์ และจ่ายเงินรางวัล ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง ของกลางคืนจำเลย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่า นางเยาว์จำเลยได้นำข้าวสาร 5 กระสอบออกนอกเขตต์ มีผิดดังฟ้อง คดีส่วนตัวนายประสิทธิจำเลยฟังได้ว่า ไม่ได้กระทำผิดดังโจทก์หา เรือยนตร์ของกลางก็ริบไม่ได้
ส่วนเงินรางวัลในการจับกุม พ.ร.บ.ให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิด พ.ศ.2489 มาตรา 7 บังคับให้จ่ายเงินที่ได้จากการขายของกลาง หรือจากเงินค่าปรับ ศาลมีอำนาจสั่งให้จ่ายตามกฎหมายนี้ได้ หากกระทบกระเทือนถึงจำเลยไม่
พิพากษาแก้ให้ลดโทษนางเยาว์ตามศาลชั้นต้น ส่วนข้าวสาร 5 กระสอบนั้น ศาลชั้นต้นไม่ได้สั่งริบ โจทก์ฎีกาเพียงขอให้ลงโทษตามศาลชั้นต้น จึงริบไม่ได้

Share