แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ผู้ร้องยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกผู้แทนราษฎรแต่ระหว่างพิจารณาได้มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรและกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป คดีจึงไม่มีประโยชน์ที่ศาลฎีกาจะพิจารณาต่อไป ให้จำหน่ายคดีจากสารบบความ
ย่อยาว
คดีทั้งสองสำนวนนี้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้รวมพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกันโดยให้เรียกผู้ร้องตามลำดับสำนวนว่าผู้ร้องที่ 1และผู้ร้องที่ 2 ผู้ร้องทั้งสองสำนวนยื่นคำร้องทำนองเดียวกันว่าการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเขตเลือกตั้งที่ 1ของจังหวัดนครพนม เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2535 เป็นไปโดยมิชอบขอให้ศาลมีคำสั่งให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดนครพนมใหม่
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และผู้ได้รับการเลือกตั้งคือนายประสงค์ บุรณพงษ์กับพลเอกมานะ รัตนโกเศศ ต่างยื่นคำคัดค้านขอให้ยกคำร้อง
ในระหว่างไต่สวนคำร้องของผู้ร้อง ปรากฏว่าได้มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2535 ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป ในวันที่ 13 กันยายน 2535 ศาลชั้นต้นจึงได้ส่งสำนวนมายังศาลฎีกาเพื่อให้มีคำสั่งจำหน่ายคดีจากสารบบความ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “โดยที่ได้มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2535 และกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 13 กันยายน 2535เช่นนี้ ที่ผู้ร้องทั้งสองขอให้ศาลมีคำสั่งให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดนครพนมใหม่ จึงเป็นกรณีที่ศาลฎีกาไม่สามารถจะสั่งให้ได้ คดีของผู้ร้องทั้งสองจึงไม่มีประโยชน์ที่ศาลฎีกาจะพิจารณาต่อไปให้จำหน่ายคดีจากสารบบความ”