คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 267/2531

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยออกเช็คพิพาทชำระหนี้โจทก์ ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินมาครั้งหนึ่งแล้ว ต่อมาจำเลยแก้ไขวันเดือนปีในเช็คพิพาทให้โจทก์นำเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินอีก ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเช่นเดียวกันโจทก์จึงนำเช็คพิพาทมาฟ้อง ดังนี้ เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินในครั้งแรกความผิดย่อมเกิดขึ้นแล้ว การที่โจทก์นำเช็คที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินครั้งหลังมาฟ้อง จึงหาเป็นความผิดขึ้นอีกไม่ เพราะการกระทำอันเดียวกันจะเกิดเป็นความผิดสองครั้งหาได้ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีขาดอายุความ พิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงในการไต่สวนฟังได้ว่าจำเลยได้ออกเช็คพิพาท ลงวันที่ 3 สิงหาคม 2528 จำนวนเงิน 60,000บาท มอบให้แก่โจทก์เป็นการชำระหนี้ค่าวัสดุก่อสร้าง เมื่อเช็คพิพาทถึงกำหนดชำระเงิน โจทก์นำไปเข้าบัญชีเพื่อให้เรียกเก็บเงินธนาคารตามเช็คพิพาทปฏิเสธการจ่ายเงินเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2528ต่อมาจำเลยยอมแก้ไขวันเดือนปีในเช็คพิพาทเป็นวันที่ 18 ธันวาคม 2528ปรากฏตามเช็คพิพาท เอกสารหมาย จ.3 ครั้นเมื่อเช็คพิพาทถึงกำหนดชำระเงินตามที่แก้ไขวันเดือนปีใหม่ โจทก์ได้นำเช็คพิพาทไปเข้าบัญชีเพื่อให้เรียกเก็บเงินอีก ธนาคารตามเช็คพิพาทได้ปฏิเสธการจ่ายเงินเช่นเดียวกัน โดยอ้างว่ายังไม่มีการตกลงกับธนาคาร ปรากฏตามใบคืนเช็คเอกสารหมาย จ.4 โจทก์ฎีกาว่า แม้เช็คพิพาทได้ถูกปฏิเสธการจ่ายเงินมาครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2528 แต่เมื่อจำเลยแก้วันเดือนปีในเช็คพิพาทให้โจทก์ใหม่เป็นวันที่ 18 ธันวาคม2528 ย่อมถือว่าเป็นเช็คฉบับใหม่ มิใช่เช็คพิพาทฉบับเดิมอีกต่อไปและการแก้วันเดือนปีใหม่ถือว่าเป็นการประนีประนอมยอมความเช็คฉบับเดิมโดยปริยาย เกิดเช็คฉบับใหม่อีกฉบับหนึ่ง จำเลยจึงมีหน้าที่ผูกพันตามเช็คฉบับใหม่
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า การแก้ไขวันเดือนปีเดิมที่ลงในเช็คมาเป็นวันเดือนปีใหม่ หาทำให้เกิดเป็นเช็คฉบับใหม่อีกฉบับหนึ่งตามที่โจทก์ฎีกาไม่ และการแก้ไขวันเดือนปีตามที่ได้ความมานั้นไม่ถือว่าเป็นการประนีประนอมยอมความ อันจะทำให้เกิดเช็คฉบับใหม่ขึ้นอีกฉบับหนึ่งตามที่โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า เช็คฉบับพิพาทคงเป็นเช็คฉบับเดิมอยู่นั่นเอง
ได้ความว่าเช็คพิพาทได้ถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินมาครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2528 ความผิดฐานออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ย่อมเกิดขึ้นนับแต่วันนั้นแล้ว ที่โจทก์นำเช็คพิพาทไปเข้าบัญชีเพื่อให้เรียกเก็บเงินอีก แล้วธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเป็นครั้งที่สองตามใบคืนเช็คเอกสารหมาย จ.4 ที่โจทก์ตั้งเป็นฐานข้อหาตามคำฟ้องนั้น หาเกิดเป็นความผิดใหม่อีกไม่เพราะเป็นการกระทำผิดอันเดียวกันนั้นเอง การกระทำอันเดียวกันจะเป็นความผิดสองครั้งหาได้ไม่ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องโจทก์เสียนั้น ศาลฎีกาเห็นด้วยในผล ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share