แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้ในสัญญาจำนองจะระบุว่าผู้จำนองได้รับเงินเป็นการเสร็จแล้วก็หาอาจฟังเป็นหลักฐานว่ามีการจ่ายเงินกันจริงได้ไม่ การนำสืบของจำเลยที่ว่าไม่มีการมอบเงินกัน เท่ากับเป็นการสืบว่าไม่มีมูลหนี้ เมื่อการนำสืบดังกล่าวรับฟังได้ย่อมไม่มีหนี้ประธาน หนี้ตามสัญญาจำนองซึ่งเป็นหนี้อุปกรณ์จึงไม่เกิดขึ้นหามีข้อห้ามมิให้นำสืบเช่นนั้นไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้นำที่ดิน 4 แปลงมาจำนองไว้แก่โจทก์จำเลยไม่เคยชำระต้นเงินและดอกเบี้ย โจทก์บอกกล่าวให้จำเลยชำระหนี้แล้วจำเลยเพิกเฉย ขอให้บังคับให้จำเลยชำระเงินกับดอกเบี้ย หากไม่ชำระให้ยึดทรัพย์ที่จำนองออกขายทอดตลาดชำระหนี้
จำเลยให้การว่า ได้ทำสัญญาจำนองประกันหนี้ของนายสุชาติซึ่งไปกู้เงินและขอซื้อสินค้าเชื่อจากนายสุรัตน์และนางสุรีย์ บิดามารดาโจทก์ จำเลยและนายสุชาติยังไม่ได้รับเงิน โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้รับเงินไปจากโจทก์ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า นายสุชาติได้ซื้อสินค้าจากร้านบิดามารดาโจทก์เป็นประจำ ต่อมาจำเลยได้นำที่ดิน 4 แปลงไปจดทะเบียนจำนองไว้แก่โจทก์ที่สำนักงานที่ดินเพื่อเป็นประกันหนี้นายสุชาติเป็นจำนวนเงิน 160,000 บาท โดยจำเลยและนายสุชาติไม่ได้รับเงินจำนวนดังกล่าวจากโจทก์ แล้ววินิจฉัยว่าแม้ในสัญญาจำนองจะระบุว่าผู้จำนองได้รับเงินเป็นการเสร็จแล้ว ข้อความดังกล่าวก็ปรากฏอยู่ก่อนแล้วในแบบพิมพ์ จึงอาจมีการหลงลืมไม่ได้ขีดฆ่าออกทั้งการจำนองรายนี้เป็นการจำนองเพื่อประกันหนี้ของผู้อื่น หาใช่ประกันหนี้ของผู้จำนองแต่อย่างใดไม่ การที่ระบุว่าผู้จำนองคือจำเลยได้รับเงินแล้ว จึงหาอาจฟังเป็นหลักฐานว่ามีการจ่ายเงินจริงได้ไม่ การนำสืบของจำเลยที่ว่าไม่มีการมอบเงินกัน เท่ากับเป็นการสืบว่าไม่มีมูลหนี้ ไม่มีหนี้ประธาน หนี้ตามสัญญาจำนองซึ่งเป็นหนี้อุปกรณ์จึงไม่เกินขึ้นด้วยนั้นหามีข้อห้ามมิให้นำสืบดังที่โจทก์ฎีกาแต่อย่างใดไม่
พิพากษายืน