คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2660/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ใบแต่งทนายความของจำเลยร่วมระบุว่าให้ทนายความของจำเลยร่วมมีอำนาจประนีประนอมยอมความได้ แม้ในสัญญาประนีประนอมยอมความจะไม่มีลายมือชื่อจำเลยร่วมอยู่ด้วยแต่เมื่อทนายความจำเลยร่วม ทนายความจำเลย และโจทก์กับทนายความโจทก์ได้ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันและข้อตกลงหรือการสัญญาประนีประนอมยอมความกันนั้นไม่เป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ทั้งศาลชั้นต้นได้พิพากษาตามยอมไปด้วยแล้วสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวย่อมใช้บังคับได้และมีผลผูกพันจำเลยร่วมด้วย ที่จำเลยร่วมฎีกาว่าศาลชั้นต้นชอบที่จะไต่สวนคำร้องของจำเลยร่วมก่อนมีคำสั่งนั้น ปัญหาข้อนี้จำเลยร่วมมิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัย

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องจากศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาตามยอมแล้วต่อมาวันที่ 15 พฤษภาคม 2533 นายนพรัตน์ นนทนาคร จำเลยร่วมยื่นคำร้องว่าทนายความของจำเลยร่วมทำสัญญาประนีประนอมยอมความไปโดยไม่ได้รับความยินยอมจากจำเลยร่วม ขออนุญาตให้จำเลยร่วมถอนทนายความของจำเลยร่วมและขอให้ไต่สวนคำร้องและมีคำสั่งเพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความ
ศาลชั้นต้นสั่งในคำร้องว่า ศาลได้มีคำพิพากษาตามยอมไปแล้วจึงไม่มีเหตุที่จะสั่งอนุญาตได้ตามคำร้อง ยกคำร้อง
จำเลยร่วมอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยร่วมฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าแม้ในสัญญาประนีประนอมยอมความฉบับลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2533 จะไม่มีลายมือชื่อจำเลยร่วมอยู่ด้วยแต่ตามใบแต่งทนายความที่จำเลยร่วมได้แต่งตั้งให้นายสังเวียนเป็นทนายความของจำเลยร่วมได้ระบุไว้โดยชัดแจ้งว่าให้ทนายความมีอำนาจสัญญาประนีประนอมยอมความได้ด้วย ดังนั้นเมื่อทนายความจำเลยร่วม จำเลย ทนายความจำเลยและโจทก์กับทนายความโจทก์ได้ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน และข้อตกลงหรือสัญญาประนีประนอมยอมความกันนั้นไม่เป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายทั้งศาลชั้นต้นได้พิพากษาตามยอมไปด้วยแล้ว สัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวนั้นจึงใช้บังคับได้และมีผลผูกพันจำเลยร่วมด้วย จำเลยร่วมจะมาอ้างว่าทนายความของจำเลยร่วมทำสัญญาประนีประนอมยอมความไปโดยไม่ได้รับความยินยอมจากจำเลยร่วมในภายหลังหาได้ไม่
ส่วนที่จำเลยร่วมฎีกาว่า ศาลชั้นต้นชอบที่จะไต่สวนคำร้องของจำเลยร่วมก่อนมีคำสั่งนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า ในปัญหาข้อนี้จำเลยร่วมมิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายืน

Share