คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2653/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การสั่งเพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบเป็นดุลพินิจของศาลที่จะสั่งได้ตามที่เห็นสมควรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา27คดีนี้มีการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยที่1โดยการปิดหมายเมื่อวันที่22มิถุนายน2534และให้แก่จำเลยที่2โดยน.รับแทนเมื่อวันที่23กรกฎาคม2534แต่ปรากฏว่าวันที่17กรกฎาคม2534จำเลยทั้งสองได้ยื่นคำให้การแสดงว่าจำเลยที่2ทราบว่าตนถูกฟ้องตั้งแต่วันดังกล่าวและต่อมาก็ได้มีการดำเนินกระบวนพิจารณาโดยการชี้สองสถานสืบพยานโจทก์จำเลยทั้งสองและมีคำพิพากษาจนพ้นอายุอุทธรณ์ไปแล้วจำเลยที่2จึงไม่มีเหตุสมควรที่จะเพิกถอนกระบวนพิจารณา

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระค่าจ้างติดตั้งโครงฝ้ายและผนังพร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยทั้งสองให้การร่วมกันว่า จำเลยทั้งสองไม่ได้ตกลงจ้างโจทก์ติดตั้งโครงฝ้าและผนังตามฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชำระเงิน 65,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
ภายหลังศาลชั้นต้นพิพากษาและพ้นกำหนดเวลายื่นอุทธรณ์แล้วต่อมาวันที่ 14 ตุลาคม 2535 จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่าจำเลยที่ 2 เพิ่งทราบว่า การส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยที่ 2 ไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะผู้รับคือ นางนิภาอายุไม่ครบ 20 ปี และยังเป็นผู้เยาว์ การดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน ขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบและมีคำสั่งให้โจทก์นำส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยทั้งสอง (น่าจะเป็นจำเลยที่ 2) ใหม่
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จะสั่งเพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบหรือไม่นั้น เป็นดุลพินิจของศาลที่จะสั่งได้ตามที่เห็นสมควรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27สำหรับคดีนี้หลังจากมีการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยที่ 1 โดยการปิดหมายเรียกเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2534และให้แก่จำเลยที่ 2 โดยนางนิภารับแทนเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม2534 แต่ปรากฏว่าวันที่ 17 กรกฎาคม 2534 จำเลยทั้งสองได้ยื่นคำให้การ แสดงว่าจำเลยที่ 2 ทราบว่าตนถูกโจทก์ฟ้องแล้วตั้งแต่วันดังกล่าว และต่อมาก็ได้มีการดำเนินกระบวนพิจารณาโดยการชี้สองสถานสืบพยานโจทก์จำเลยทั้งสองและมีคำพิพากษาจนพ้นอายุอุทธรณ์ไปแล้ว จำเลยที่ 2 จึงยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาดังกล่าว กรณีจึงไม่มีเหตุสมควรที่จะเพิกถอนกระบวนพิจารณาดังกล่าวตามคำร้องของ จำเลยที่ 2 คำพิพากษาฎีกาที่จำเลยที่ 2 อ้างมาข้อเท็จจริงไม่ตรงกับคดีนี้ ศาลล่างทั้งสองไม่สั่งเพิกถอนกระบวนพิจารณาดังกล่าวจึงชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share