คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2639/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีความผิดต่อส่วนตัว ก่อนคดีถึงที่สุด ผู้เสียหายย่อมถอนคำร้องทุกข์ได้ ระหว่างฎีกา ผู้เสียหายขอถอนคำร้องทุกข์อ้างว่าประนีประนอมยอมความกับจำเลยแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยออกเช็คของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด สาขาจักรพรรดิพงษ์ ให้แก่นายปุ๋ยฯ โดยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ จำเลยให้การปฏิเสธศาลชั้นต้นอนุญาตให้นายปุ๋ย ทองสกุล ผู้เสียหายเข้าเป็นโจทก์ร่วม

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว เห็นว่าคดีไม่อยู่ในเขตอำนาจศาลจังหวัดนนทบุรีพิพากษายกฟ้อง

โจทก์ร่วมอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ศาลจังหวัดนนทบุรีมีอำนาจชำระคดีนี้ได้ ให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

จำเลยฎีกา

ระหว่างฎีกา ผู้เสียหายขอถอนคำร้องทุกข์ ไม่ติดใจดำเนินคดีกับจำเลยต่อไป อ้างว่าได้ประนีประนอมยอมความกับจำเลยแล้ว

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในคดีความผิดต่อส่วนตัวนั้น ก่อนคดีถึงที่สุด ผู้เสียหายย่อมถอนคำร้องทุกข์ได้ ความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 เป็นความผิดต่อส่วนตัว เมื่อผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์ก่อนคดีถึงที่สุดเช่นนี้สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2)

จึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีนี้เสีย

Share