คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2628/2545

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยเพียงแต่ให้การว่า จำเลยมิได้เป็นหนี้โจทก์ โจทก์หลอกลวงทำบิลรับของมาให้จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทเพื่อชำระหนี้ค่าดินลูกรัง โดยที่จำเลยไม่เคยรับดินลูกรังจากโจทก์เท่านั้น มิได้กล่าวอ้างถึงข้อที่ว่า โจทก์ส่งดินลูกรังให้จำเลยไม่ครบถ้วน จำเลยจึงมีคำสั่งให้ระงับการจ่ายเงินตามเช็คพิพาท กรณีจึงถือไม่ได้ว่าจำเลยได้ยกข้อต่อสู้ดังกล่าวเป็นประเด็นขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น จึงต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 วรรคแรก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2539 จำเลยทั้งสองสั่งซื้อดินลูกรังจากโจทก์โดยผ่านการติดต่อจากห้างหุ้นส่วนจำกัดนุตจรัสก่อสร้าง จำเลยทั้งสองได้ชำระเงินให้แก่โจทก์แล้ว 100,000 บาท ส่วนที่เหลือจำเลยที่ 2 ได้ลงลายมือชื่อและประทับตราของจำเลยที่ 1 สั่งจ่ายเป็นเช็คธนาคารเอเซีย จำกัด (มหาชน) สาขาแจ้งวัฒนะลงวันที่ 5 เมษายน 2539 จำนวนเงิน 444,963 บาท ให้แก่โจทก์ เมื่อเช็คถึงกำหนดเรียกเก็บเงิน โจทก์นำเข้าบัญชีธนาคารของโจทก์เพื่อเรียกเก็บเงินแทน แต่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 444,963 บาท ให้แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ

จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยที่ 2 กระทำการในฐานะกรรมการของจำเลยที่ 1มิได้กระทำในฐานะส่วนตัว จำเลยทั้งสองมิได้เป็นหนี้โจทก์ โจทก์หลอกลวงทำบิลรับของมาให้จำเลยทั้งสองสั่งจ่ายเช็คพิพาทเพื่อชำระหนี้ค่าดินลูกรัง โดยที่จำเลยทั้งสองไม่เคยได้รับดินลูกรังจากโจทก์ เช็คพิพาทจึงเป็นเช็คที่ไม่มีมูลหนี้ต่อกัน ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงิน 444,963 บาท ให้แก่โจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 10 เมษายน 2539 จนกว่าจะชำระเสร็จ ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2

จำเลยที่ 1 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 1 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ส่วนที่จำเลยที่ 1 ฎีกาต่อไปอีกว่า จำเลยที่ 1 ได้ยกข้อต่อสู้ที่ว่า โจทก์จัดส่งดินลูกรังไม่ครบถ้วน จำเลยที่ 1 จึงมีคำสั่งให้ระงับการจ่ายเงินตามเช็คพิพาทขึ้นเป็นประเด็นมาตั้งแต่ในศาลชั้นต้นแล้ว ศาลอุทธรณ์จึงต้องรับวินิจฉัยให้นั้นเห็นว่า จำเลยทั้งสองเพียงแต่ให้การต่อสู้คดีไว้ว่า จำเลยทั้งสองมิได้เป็นหนี้โจทก์ โจทก์หลอกลวงทำบิลรับของมาให้จำเลยทั้งสองสั่งจ่ายเช็คพิพาทเพื่อชำระหนี้ค่าดินลูกรังโดยที่จำเลยทั้งสองไม่เคยได้รับดินลูกรังจากโจทก์เท่านั้น มิได้กล่าวอ้างถึงข้อที่ว่า โจทก์ส่งดินลูกรังให้จำเลยที่ 1 ไม่ครบถ้วน จำเลยที่ 1 จึงมีคำสั่งให้ระงับการจ่ายเงินตามเช็คพิพาทแต่อย่างไร กรณีจึงถือไม่ได้ว่า จำเลยที่ 1 ได้ยกข้อต่อสู้ดังกล่าวเป็นประเด็นขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น กรณีจึงต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 วรรคแรก ฉะนั้น ที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยให้จึงชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยที่ 1 ทุกข้อฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน

Share