คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2628/2518

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อผู้ร้องและผู้คัดค้านซึ่งต่างก็เป็นทายาทของ ร.อ้างว่าครอบครองทรัพย์พิพาทเพื่อเป็นของตนภายหลัง ร.ตายเพียง 4 ปี แม้จะฟังเป็นความจริงข้างฝ่ายใด ก็ยังไม่มีฝ่ายใดได้กรรมสิทธิ์ จึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยถึงข้อโต้เถียงในการเข้าครอบครองทรัพย์พิพาทของผู้ร้องและผู้คัดค้านว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายครอบครอง
เมื่อผู้ร้องมิได้ดำเนินคดีโดยตั้งประเด็นว่าทรัพย์พิพาทเป็นมรดกและผู้ร้องเป็นทายาท แต่ตั้งประเด็นผู้ร้องได้ครอบครองทรัพย์พิพาทจนได้กรรมสิทธิ์โดยอายุความแล้วเมื่อผู้ร้องนำสืบฟังไม่ได้ ก็ชอบที่จะต้องยกฟ้อง และยังไม่สมควรที่จะแบ่งมรดกให้ในคดีนี้

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องทั้งสองได้ครอบครองที่ดินโฉนดเลขที่ ๕๐๗๒ โดยความสงบเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของที่ดินกันมาเกิน ๑๐ ปีแล้ว ขอให้ศาลมีคำสั่งแสดงว่าที่ดินดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้อง
ผู้คัดค้านทั้งสี่ได้ยื่นคำร้องคัดค้านว่า ผู้คัดค้านทั้งสี่ได้ครอบครองทำกินเก็บผลประโยชน์ในที่พิพาทด้วยความสงบเปิดเผย เจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันมาเกิน ๑๐ ปี ผู้คัดค้านจึงได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาท
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า ผู้คัดค้านเป็นฝ่ายครอบครองที่พิพาท ที่พิพาทตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้คัดค้านแล้วโดยการครอบคอรงพิพากษายกคำร้องของผู้ร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ที่พิพาทเป็นมรดกตกได้แก่ผู้ร้องที่ ๒ และผู้คัดค้านทั้งสี่ซึ่งเป็นทายาทของนายรอดและครอบครองที่พิพาทร่วมกัน ยังไม่ได้แบ่งแยกเป็นส่วนสัด ผู้ร้องที่ ๒ มีสิทธิได้รับมรดกในที่พิพาท ๑ ใน ๕ พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นว่า ที่ดินพิพาทเป็นมรดกของนายรอด ตกได้แก่ผู้ร้องที่ ๒ หนึ่งในห้า ให้ผู้คัดค้านแบ่งที่พิพาทให้ผู้ร้องที่ ๒ หนึ่งในห้าส่วน ถ้าไม่ตกลง ให้แบ่งโดยประมูลระหว่างเจ้าของหรือขายทอดตลาด
ผู้คัดค้านทั้งสี่ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อผู้ร้องและผู้คัดค้านอ้างว่าครอบครองทรัพย์พิพาทเพื่อเป็นของตนภายหลังร.ตายเพียง ๔ ปี แม้จะฟังเป็นความจริงข้างฝ่ายใด ก็ยังไม่มีฝ่ายใดได้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์พิพาทรายนี้ จึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยถึงข้อโต้เถียงในการเข้าครอบครองทรัพย์พิพาทของผู้ร้องและผู้คัดค้านว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายครอบครอง
เมื่อผู้ร้องมิได้ดำเนินคดีโดยตั้งประเด็นว่าทรัพย์พิพาทเป็นมรดกและผู้ร้องเป็นทายาท แต่ตั้งประเด็นผู้ร้องได้ครอบครองทรัพย์พิพาทจนได้กรรมสิทธิ์โดยอายุความแล้วเมื่อผู้ร้องนำสืบฟังไม่ได้ ก็ชอบที่จะต้องยกฟ้อง และยังไม่สมควรที่จะแบ่งมรดกให้ในคดีนี้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้แบ่งมรดกแก่ผู้ร้องมานั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา
พิพากษาแก้คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์เป็นว่า ให้ยกคำร้องของผู้เสียโดยไม่ตัดสิทธิที่ผู้ร้องจะนำคดีไปฟ้องใหม่ในเรื่องมรดก

Share