แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ศาลชั้นต้นสั่ง ไม่รับฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยไม่นำเงินมาชำระตาม คำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความแพ่ง มาตรา 234 ประกอบมาตรา 247 จึงไม่รับคำร้อง
จำเลยเห็นว่า การที่จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาโดยมิได้นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือ หาประกันไว้ ศาลชั้นต้นจะสั่งไม่รับคำร้องทันทีหาได้ไม่ แต่ชอบ ที่จะส่งคำร้องดังกล่าวไปให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเพื่อมีคำสั่ง ให้จำเลยดำเนินการนำเงินมาชำระหรือหาประกันมาวางภายในเวลาที่ ศาลอุทธรณ์กำหนด โปรดมีคำสั่งให้รับคำร้องอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว และกำหนดเวลาให้จำเลยนำเงินมาชำระหรือหาประกันมาวางด้วย
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาอุทธรณ์แล้ว (อันดับ 85)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 70,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยฯแก่โจทก์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้ให้จำเลยชำระเงิน 17,312 บาทพร้อมดอกเบี้ยฯแก่โจทก์อีกจำนวนหนึ่งด้วย
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 248 จึงไม่รับฎีกา (อันดับ 81)
จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว(อันดับ 82)
จำเลยยื่นอุทธรณ์คำสั่งฉบับนี้ (อันดับ 83)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว แม้จำเลยมีอำนาจยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับฎีกาต่อศาลชั้นต้นเพื่อให้ศาลฎีกาพิจารณาสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 252 ได้ก็ตาม แต่จำเลย จะต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งมาตรา 234 ประกอบด้วยมาตรา 247 โดยจะต้องยื่นคำร้องนั้นต่อศาลชั้นต้นและนำค่าฤชาธรรมเนียม ทั้งปวงมาวางศาล และนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกัน ให้ไว้ต่อศาลภายในกำหนดสิบห้าวันนับแต่วันที่ศาลชั้นต้นได้มี คำสั่งอีกด้วย ปรากฏว่าเมื่อศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาและจำเลย ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไปยังศาลฎีกาแต่ไม่ได้นำค่าฤชาธรรมเนียม ทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกัน ให้ไว้ต่อศาลภายในกำหนด คำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยจึงไม่ชอบ ด้วยกฎหมายที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับคำร้องนั้นชอบแล้ว ให้คืน ค่าคำร้องที่เสียเกินมา 160 บาท ให้แก่จำเลย
