คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2627/2546

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ศาลจังหวัดสมุทรปราการสั่งรับอุทธรณ์ของจำเลย โดยให้จำเลยนำส่งสำเนาอุทธรณ์แก่โจทก์ภายใน 7 วัน หากส่งไม่ได้ให้แถลงภายใน 15 วัน คำสั่งดังกล่าวจึงเป็นการกำหนดให้จำเลยเป็นผู้ส่งสำเนาอุทธรณ์ ปรากฏว่าโจทก์มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ศาลจังหวัดสมุทรปราการจึงมีหนังสือแจ้งให้ศาลแพ่งกรุงเทพใต้สั่งเจ้าหน้าที่ดำเนินการส่งสำเนาอุทธรณ์แก่โจทก์ ต่อมาศาลแพ่งกรุงเทพใต้แจ้งผลการส่งหมายมาที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการว่าส่งให้ไม่ได้ ศาลจังหวัดสมุทรปราการสั่งว่ารอจำเลยแถลง ดังนี้ เป็นกรณีที่จำเลยมิได้เป็นผู้นำส่งแต่เป็นการส่งหมายข้ามเขตที่ศาลเป็นผู้ส่งเอง เมื่อศาลจังหวัดสมุทรปราการมิได้แจ้งผลการส่งหมายให้จำเลยทราบจำเลยย่อมไม่มีทางทราบถึงผลการส่งหมายดังกล่าว การที่จำเลยมิได้ยื่นคำแถลงให้ดำเนินการต่อไป จึงยังถือไม่ได้ว่าจำเลยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) อันจะถือเป็นการทิ้งฟ้องแต่อย่างใด

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินตามสัญญาประนีประนอมยอมความจำนวน 648,912 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี จากต้นเงิน633,085 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินตามฟ้อง จำเลยยื่นอุทธรณ์ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ของจำเลย ให้จำเลยนำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้โจทก์ภายใน 7 วันหากส่งไม่ได้ให้แถลงภายใน 15 วัน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ศาลชั้นต้นที่โจทก์มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตรายงานว่านำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้โจทก์แล้ว แต่ส่งไม่ได้ปรากฏตามรายงานเจ้าหน้าที่ซึ่งแนบท้ายหนังสือศาลชั้นต้นที่โจทก์มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตลงวันที่ 7 ธันวาคม 2542 ว่า ส่งให้โจทก์ไม่ได้เพราะหาที่อยู่ไม่พบ ศาลชั้นต้นสั่งว่ารอจำเลยแถลง แต่จำเลยก็ไม่ได้แถลงเข้ามาภายในกำหนด ศาลชั้นต้นสั่งให้รวบรวมสำนวนส่งศาลอุทธรณ์ภาค 1 เพื่อพิจารณาสั่ง

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งว่าจำเลยทิ้งอุทธรณ์ ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความของศาลอุทธรณ์ภาค 1

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาจำเลยว่า จำเลยทิ้งฟ้องอุทธรณ์หรือไม่ เห็นว่า ศาลชั้นต้นคือศาลจังหวัดสมุทรปราการสั่งรับอุทธรณ์จำเลยให้จำเลยนำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้โจทก์ภายใน 7 วัน หากส่งไม่ได้ให้แถลงภายใน 15 วันตามคำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวจึงเป็นการกำหนดให้จำเลยเป็นผู้นำส่งสำเนาอุทธรณ์แต่ปรากฏว่าคดีนี้โจทก์มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ศาลจังหวัดสมุทรปราการจึงมีหนังสือแจ้งให้ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ให้สั่งเจ้าหน้าที่ดำเนินการส่งสำเนาอุทธรณ์ให้โจทก์ ต่อมาศาลแพ่งกรุงเทพใต้ได้แจ้งผลการส่งหมายมายังศาลจังหวัดสมุทรปราการว่าส่งให้ไม่ได้ ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ได้สั่งว่ารอจำเลยแถลง ดังนี้ จึงเป็นการแสดงว่าจำเลยมิได้เป็นผู้นำส่ง หากแต่เป็นการส่งหมายข้ามเขตศาลซึ่งศาลเป็นผู้ส่งเองเมื่อศาลจังหวัดสมุทรปราการมิได้แจ้งผลการส่งหมายดังกล่าวให้จำเลยทราบ จำเลยย่อมไม่มีทางทราบถึงผลการส่งหมายดังกล่าว การที่จำเลยมิได้ยื่นคำแถลงให้ดำเนินการต่อไป จึงยังถือไม่ได้ว่าจำเลยไม่ได้ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งว่า จำเลยทิ้งฟ้องอุทธรณ์นั้นไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาจำเลยฟังขึ้น”

พิพากษายกคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 1 ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการแจ้งผลการส่งหมายนัดและสำเนาฟ้องอุทธรณ์แก่โจทก์ให้จำเลยทราบแล้วดำเนินการต่อไป

Share