คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2607/2520

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลพิพากษาให้จำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกแบ่งทรัพย์ให้โจทก์ 2 ใน 3 ส่วน ถ้าตกลงแบ่งกันเองไม่ได้ให้ประมูลราคาระหว่างโจทก์กับจำเลย หากยังไม่ตกลงกันก็ให้ขายทอดตลาดแบ่งเงินกัน ฝ่ายโจทก์ได้ติดต่อให้จำเลยแบ่งทรัพย์พิพาทให้ แต่ตกลงกันไม่ได้เพราะจำเลยจะแบ่งให้เพียงครึ่งหนึ่ง โจทก์จึงขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีเรียกจำเลยมาประมูลทรัพย์สินระหว่างกันเอง จำเลยก็ไม่มาพบเจ้าพนักงานบังคับคดี เช่นนี้ถือได้ว่าการแบ่งทรัพย์หรือประมูลราคาระหว่างโจทก์จำเลยไม่มีทางตกลงกันได้แล้ว ที่โจทก์ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีขาดทอดตลาดทรัพย์พิพาท จึงเป็นการถูกต้องตามขั้นตอนแล้วและเมื่อกรณีมีความจำเป็นต้องดำเนินการบังคับคดีให้จำเลยแบ่งทรัพย์พิพาท แก่โจทก์ตามคำพิพากษาด้วยวิธีขายทอดตลาด การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีทำการยึดทรัพย์พิพาทก่อนทำการขายทอดตลาดย่อมเป็นการปฏิบัติที่ชอบด้วยประมวล กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ลักษณะ 2

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดก ศาลพิพากษาให้จำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกแบ่งทรัพย์ให้โจทก์ ๒ ใน ๓ ส่วน ทรัพย์ที่ไม่ใช่ตัวเงินให้ตกลงแบ่งกันเองถ้าตกลงกันไม่ได้ให้ประมูลราคาระหว่างโจทก์จำเลย หากยังไม่ตกลงกันก็ให้ขายทอดตลาดแบ่งเงินกันตามส่วน ต่อมาโจทก์ขอให้ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดียึดทรัพย์และประมูลราคาระหว่างโจทก์จำเลย หากตกลงกันไม่ได้ก็ให้ขายตลาดเพื่อจัดแบ่งให้โจทก์ตามส่วนศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดีแล้วโจทก์นำยึดที่ดินมารวม ๙ โฉนด
จำเลยทั้งสองสำนวนยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่า โจทก์พึงยื่นคำร้องขอให้คู่ความมาตกลงแบ่งทรัพย์กันหรือประมูลระหว่างกันเองก่อน หากไม่สามารถปฏิบัติได้จึงจะถึงขั้นขายทอดตลาดเพื่อเอาเงินแบ่งกัน และการขายทอดตลาดก็ไม่จำต้องยึดทรัพย์ก่อนขอให้เพิกถอนการยึดทรัพย์
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้องของจำเลย
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาว่าโจทก์ได้ดำเนินการบังคับคดีถูกต้องตามขั้นตอนของคำพิพากษาหรือไม่
ได้พิจารณาแล้ว ตามคำเบิกความของขุนอรุณเวชชรัตน์ผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์ให้ดำเนินการบังคับคดีแทน เชื่อว่าฝ่ายโจทก์ได้ติดต่อให้จำเลยแบ่งทรัพย์พิพาทให้ก่อนแล้ว แต่ตกลงกันไม่ได้เพราะจำเลยจะแบ่งให้ครึ่งหนึ่งแทนที่จะแบ่งให้ ๒ ใน ๓ ส่วนตามคำพิพากษา โจทก์จึงขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีเรียกจำเลยมาประมูลทรัพย์สินระหว่างกันเอง แต่จำเลยก็ไม่มาพบเจ้าพนักงานบังคับคดี โจทก์จึงได้ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์ เพื่อนำเงินมาแบ่งให้โจทก์ตามคำพิพากษา กรณีเช่นนี้ถือได้ว่าการแบ่งทรัพย์หรือประมูลราคาระหว่างโจทก์จำเลยไม่มีทางตกลงกันได้แล้ว ฉะนั้นที่โจทก์ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทต่อไปนั้น จึงเป็นการดำเนินการบังคับคดีที่ถูกต้องตามขั้นตอนของคำพิพากษาแล้ว และเห็นว่าโจทก์เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิเรียกให้จำเลยแบ่งทรัพย์แก่โจทก์ตามคำพิพากษา เมื่อกรณีมีความจำเป็นต้องดำเนินการบังคับคดีให้จำเลยแบ่งทรัพย์พิพาทแก่โจทก์ตามคำพิพากษาของศาลด้วยวิธีการ ขายทอดตลาดโดยทางเจ้าพนักงานบังคับคดีที่เจ้าพนักงานบังคับคดีทำการยึดทรัพย์พิพาทก่อนทำการขายทอดตลาดย่อมเป็นการปฏิบัติที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ลักษณะ ๒ ว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งแล้ว และเมื่อคดีมาถึงขั้นต้องทำการขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทแล้ว ปัญหาว่าการประมูลราคาจะต้องมีการยึดทรัพย์ก่อนหรือไม่ตามที่จำเลยฎีกาขึ้นมา ก็ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยอีก
พิพากษายืน

Share