คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 260/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ป.วิ.พ.มาตรา 94 บัญญัติห้ามการนำสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขเฉพาะกรณีที่มีกฎหมายบังคับให้ต้องมีพยานเอกสารมาแสดง คือในกรณีที่กฎหมายบังคับให้ทำเป็นหนังสือเท่านั้น
สัญญาประนีประนอมที่ทำกันก่อนใช้ป.พ.พ.บรรพ 3 นั้น ในขณะนั้นไม่มีกฎหมายบังคับให้ต้องทำเป็นหนังสือฉะนั้นแม้จะได้ทำเป็นหนังสือไว้แล้วก็ย่อมนำพยานบุคคลมาสืบได้ว่าคู่กรณีได้ตกลงแก้ไขสัญญาประนีประนอมนั้นเสียใหม่แล้วด้วยสัญญาปากเปล่าได้ไม่ต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่งมาตรา 94

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยแก้ทะเบียนโอนโฉนดที่ดินให้โจทก์ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ
จำเลยต่อสู้ว่า เมื่อได้ทำสัญญารประนีประนอมฉบับนั้นแล้ว ฝ่ายจำเลยรู้สึกเสียเปรียบโจทก์มาก จึงได้ตกลงกับโจทก์ใหม่ ให้กรรมสิทธิ์ของจำเลยในโฉนดฉบับพิพาทคงเป็นของจำเลยไม่ต้องโอน โจทก์ก็ยอม จึงได้ทำการโอนเฉพาะโฉนดอื่น
ศาลชั้นต้นเห็นว่าสัญญาประนีประนอมยอมความเมื่อก่อนใช้ ป.พ.พ.กฎหมายขณะนั้นมิได้บังคับให้ต้องทำเป็นหนังสือ จึงสืบแก้ไขได้และฟังข้อเท็จจริงตามจำเลยต่อสู้ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นพ้องกับศาลล่างว่า ขณะทำสัญญาประนีประนอมและตกลงแก้ไขสัญญารายนี้นั้นเป็นเวลาก่อนใช้ ป.พ.พ.บรรพ ๓ ซึ่งขณะนั้นไม่มีกฎหมายบังคับให้สัญญาประนีประนอมต้องทำเป็นหนังสือ การตกลงกันแก้ไขก็ย่อมทำได้ด้วยสัญญาปากเปล่า ป.วิ.แพ่งมาตรา ๙๔ บัญญัติห้ามการนำสืบเฉพาะกรณีที่มีกฎหมายบังคับให้ต้องมีพยานเอกสารมาแสดง คือที่บังคับให้ทำเป็นหนังสือเท่านั้น คดีนี้จำเลยจึงนำพยานบุคคลมาสืบได้
ส่วนข้อเท็จจริงคงฟังตามศาลล่าง จึงพิพากษายืน

Share