คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2590/2534

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

สินค้าประเภทที่จำเลยนำเข้ามาในประเทศไม่เคยมีผู้ใดนำเข้ามาก่อน กรมศุลกากร โจทก์จึงถือเอาราคา เอฟ.โอ.บี เป็นฐานเพื่อกำหนดราคาอันแท้จริงในท้องตลาดเพื่อเสียภาษี โดยไม่ปรากฏว่าราคาเอฟ.โอ.บี ที่จำเลยสำแดงในใบขนสินค้าเป็นราคาที่ถูกกว่าราคาเป็นจริง ต้องฟังว่าราคาที่จำเลยสำแดงในใบขนสินค้าถูกต้องและเจ้าพนักงานประเมินเพื่อเรียกเก็บภาษีอากรจากราคาดังกล่าว จึงชอบด้วยกฎหมาย.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ที่ 1 มีอำนาจหน้าที่จัดเก็บภาษีอากรตามพระราชบัญญัติศุลกากรและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โจทก์ที่ 2มีอำนาจหน้าที่จัดเก็บภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร นอกจากนี้โจทก์ที่ 1 ยังมีอำนาจหน้าที่จัดเก็บภาษีการค้า และภาษีบำรุงเทศบาลแทนโจทก์ที่ 2 ตามที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงการคลังด้วยจำเลยเป็นเจ้าของและผู้จัดการร้านค้ากรุงเทพฟิลม์ ประกอบพาณิชย์กิจขายสินค้าหลายประเภทรวมทั้งเครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ เมื่อระหว่างวันที่ 31 มกราคม 2526 ถึงวันที่ 11 มีนาคม 2526 จำเลยได้สั่งซื้อและนำเข้าสินค้าเครื่องให้ความร้อนด้วยไฟฟ้าจากต่างประเทศ รวม2 ครั้ง โดยแต่ละครั้งจำเลยได้ยื่นใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ของโจทก์ที่ 1 เพื่อชำระภาษีอากรแต่ปรากฏว่าจำเลยได้สำแดงราคาสินค้าและภาษีอากรต่ำกว่าราคาอันแท้จริงในท้องตลาดเป็นเหตุให้การชำระภาษีอากรของจำเลยไม่ครบถ้วนจำเลยจึงต้องรับผิดใช้ค่าภาษีอากรตามราคาสินค้าที่แท้จริงในท้องตลาดคำนวณแล้วเงินภาษีอากรที่จำเลยจะต้องชำระเพิ่มเป็นเงินทั้งสิ้น155,653.97 บาท โจทก์ได้ทวงถามให้จำเลยชำระภาษีอากรและเงินเพิ่มดังกล่าวแล้วแต่จำเลยไม่ชำระ ขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระเงินภาษีอากรและเงินเพิ่ม 155,653.97 บาท แก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยสำแดงราคาสินค้าตามใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าถูกต้องแล้ว สินค้าตามฟ้องจำเลยเพิ่งส่งเข้ามาเป็นครั้งแรกและในขณะนั้นในตลาดเมืองไทยยังไม่มีสินค้าดังกล่าวจำหน่าย การสำแดงราคาจึงต้องถือตามราคาที่จำเลยซื้อมาจากต่างประเทศเป็นเกณฑ์ในการคำนวณภาษีอากร จำเลยได้ชำระภาษีอากรให้โจทก์ทั้งสองตามกฎหมายแล้ว โจทก์ทั้งสองจึงไม่มีสิทธิเรียกให้จำเลยชำระภาษีเพิ่ม ที่โจทก์มีหนังสือลงวันที่ 17 เมษายน2528 ให้จำเลยชำระภาษีเพิ่มไม่ถูกต้อง เพราะมิได้แสดงให้เห็นว่าราคาสินค้าในท้องตลาดเป็นเงินเท่าใดจะนำราคาซื้อขายในปี พ.ศ. 2528มาใช้ประเมินไม่ได้ การประเมินจึงไม่ชอบ ขอให้ศาลยกฟ้อง
ศาลภาษีอากรกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว คดีมีประเด็นจะต้องวินิจฉัยว่า จำเลยจะต้องเสียค่าอากรเพิ่มขึ้นตามที่โจทก์ฟ้องหรือไม่ โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสำแดงราคาสินค้าอันแท้จริงในท้องตลาดไม่ถูกต้อง เป็นเหตุให้การชำระภาษีอากรของจำเลยไม่ครบถ้วนปัญหาว่าราคาอันแท้จริงในท้องตลาดสำหรับสินค้าที่จำเลยนำเข้าเป็นจำนวนเท่าใด เห็นว่าตามฟ้องของโจทก์เองได้บรรยายต่อไปว่าสินค้าที่จำเลยนำเข้ายังไม่อาจหาราคาท้องตลาดเทียบเคียงเพื่อประเมินภาษีอากรในขณะนั้นได้ซึ่งสอดคล้องกับที่จำเลยให้การว่าเป็นสินค้าที่จำเลยเพิ่งสั่งเข้ามาเป็นครั้งแรกในขณะนั้นยังไม่มีสินค้าประเภทที่จำเลยนำเข้ามาจำหน่ายอยู่ก่อน โจทก์ที่ 1 จึงคิดราคาอันแท้จริงในท้องตลาดตามราคาที่จำเลยนำเข้า โดยโจทก์มีนางสาวจรรยา โรจนดิลก ผู้ประเมินราคามาเบิกความว่าเป็นผู้ตรวจใบขนสินค้าเอกสารหมาย จ.1 แล้วประเมินราคาตามราคา เอฟ.โอ.บีเป็นราคาสินค้าที่นำเข้าและให้จำเลยเสียอากรตามราคาดังกล่าวโดยถือเป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาด ดังนั้นข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่าไม่เคยมีการนำสินค้าประเภทที่จำเลยนำเข้าเข้ามาในประเทศมาก่อนโจทก์ที่ 1 จึงถือเอาราคา เอฟ.โอ.บี เป็นฐานเพื่อกำหนดราคาอันแท้จริงในท้องตลาดเพื่อเสียภาษี โดยไม่ปรากฏว่าราคา เอฟ.โอ.บีที่จำเลยสำแดงในใบขนสินค้าเป็นราคาที่ถูกกว่าราคาเป็นจริงจึงต้องฟังว่าราคาที่จำเลยสำแดงในใบขนสินค้าถูกต้อง และเจ้าพนักงานประเมินเพื่อเรียกเก็บภาษีอากรจากราคาดังกล่าว จึงชอบด้วยกฎหมายส่วนที่โจทก์นำสืบต่อไปว่าจำเลยสำแดงราคาสินค้าต่ำกว่าราคาที่ผู้อื่นนำเข้าในเวลาใกล้เคียงกันจึงต้องประเมินภาษีอากรสินค้าที่จำเลยนำเข้าเพิ่มขึ้น ปรากฏตามใบขนสินค้าที่จำเลยนำเข้าเอกสารหมาย จ.1 แผ่นที่ 3 และ 11 กับที่ผู้อื่นนำเข้าแผ่นที่ 22,23 นั้นปรากฏว่า สินค้าที่จำเลยนำเข้าเป็นเครื่องอบอาหารดิมาเฟลคอีเล็กทริค ทรอยเลอร์ คอนเวคชั่น โอเวน แบบ ซี.วี.โอ-700,ซี.วี.โอ-500 ส่วนที่ผู้อื่นนำเข้าเป็นเครื่องอบอาหารดิมาเฟลคเทอร์โบ บรอยเลอร์ โดยโจทก์มีนางสาวไพลิน แสนสุขศาลวงษ์ เจ้าพนักงานประเมินอากร กองวิเคราะห์ราคาของโจทก์ที่ 1 มาเบิกความว่าได้ตรวจดูสินค้ารายนี้แล้ว ได้ทักท้วงไว้แต่ไม่ได้ดูสินค้าที่นำมาเปรียบเทียบราคา คงดูแต่รุ่นแล้วเป็นรุ่นเดียวกัน เห็นว่าเพียงแต่พยานอ้างว่าดูรุ่นแล้วเป็นรุ่นเดียวกันจึงถือว่าเป็นสินค้าอย่างเดียวกันนั้น คำเบิกความดังกล่าวไม่มั่นคงขาดเหตุผล เพราะหากเป็นสินค้าอย่างเดียวกัน รุ่นเดียวกัน เหตุใดจึงใช้ชื่อต่างกันการตรวจดูเพียงสินค้าที่จำเลยนำเข้าโดยมิได้เทียบเคียงกับสินค้าที่ผู้อื่นนำเข้าและมิได้ตรวจสอบว่ามีขนาดหรือคุณภาพต่างกันอย่างไรเพียงแต่ตรวจจากเอกสารว่าเป็นรุ่นเดียวกันแล้วถือว่าเป็นสินค้าอย่างเดียวกัน จึงเป็นการไม่ชอบถือไม่ได้ว่าการประเมินดังกล่าวเป็นการประเมินราคาอันแท้จริงในท้องตลาดสำหรับสินค้าที่จำเลยนำเข้าจำเลยจึงไม่ต้องชำระค่าอากรเพิ่มขึ้นตามฟ้อง ที่ศาลภาษีอากรกลางพิพากษามาชอบแล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสองฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.

Share