คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 259/2530

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ในคดีล้มละลาย พ.ร.บ. ล้มละลายฯมาตรา 91 บัญญัติไว้เป็นกรณีพิเศษแล้วว่า เจ้าหนี้ต้องยื่นคำขอต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ ภายในกำหนดเวลา 2 เดือน นับแต่วันโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด จึงไม่อาจนำบทบัญญัติแห่งป.วิ.พ. มาตรา 180 มาใช้โดยอนุโลม ดังนั้น การที่เจ้าหนี้ยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมจำนวนหนี้เมื่อล่วงเลยระยะเวลา 2 เดือนจึงกระทำไม่ได้.

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องจากการที่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยล้มละลาย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาด เมื่อวันที่ 11 กันยายน2524 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ยื่นคำขอรับชำระหนี้เป็นเงิน 127,284 บาท 15 สตางค์ ไม่มีผู้ใดคัดค้าน
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทำการสอบสวนแล้ว แต่ก่อนทำความเห็นเสนอศาล เจ้าหนี้ยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เมื่อวันที่30 สิงหาคม 2526 ขอรับชำระหนี้เพิ่มเติมอีก 5,494 บาท โดยอ้างว่าจำนวนหนี้ที่ขอไว้เดิมผิดพลาดไป
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทำความเห็นเสนอศาลชั้นต้นว่าควรให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ เป็นเงิน 127,284 บาท 15 สตางค์เต็มตามจำนวนที่ขอมาในคราวแรก ส่วนที่ขอเพิ่มเติมในภายหลังอีก 5,494 บาทนั้นเห็นควรให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
เจ้าหนี้อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แก้อุทธรณ์เองจึงไม่กำหนดค่าทนายความชั้นอุทธรณ์ให้
เจ้าหนี้ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “การขอรับชำระหนี้ของบรรดาเจ้าหนี้ในคดีล้มละลายนั้น กฎหมายได้บัญญัติไว้เป็นพิเศษ ดังจะเห็นได้ตามมาตรา104 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย ฯ ที่กำหนดเงื่อนไขให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นัดหมายเจ้าหนี้และลูกหนี้มาพร้อมกันเพื่อตรวจคำขอรับชำระหนี้ ทั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่ประสงค์จะคัดค้านหนี้รายใดว่าไม่สมบูรณ์ ไม่มีสิทธิหรือไม่ถูกต้องประการใด ได้กระทำเสียแต่ในชั้นแรกก่อนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะเริ่มทำการสอบสวนคำขอรับชำระหนี้ในแต่ละราย ดังนั้น หากจะถือว่าการขอรับชำระหนี้เป็นกรณีเดียวกันกับการยื่นฟ้องในคดีแพ่งทั่ว ๆ ไปและเจ้าหนี้มีสิทธิที่จะขอแก้ไขเพิ่มเติมได้ภายใต้เงื่อนไขของมาตรา 180 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งแล้ว การดำเนินคดีของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็จะเต็มไปด้วยความยุ่งยากและไม่มีที่สิ้นสุด ดังนั้น เมื่อพระราชบัญญัติล้มละลาย ฯ ได้กำหนดเรื่องนี้ไว้เป็นพิเศษแล้ว จึงไม่อาจนำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาอนุโลมใช้ได้คำพิพากษาฎีกาที่เจ้าหนี้อ้างมา มิได้มีนัยดังที่เจ้าหนี้เข้าใจจึงไม่อาจนำมาสนับสนุนเหตุผลตามฎีกาของเจ้าหนี้ได้ ที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยมาชอบแล้ว ฎีกาของเจ้าหนี้ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แก้ฎีกาเองจึงไม่กำหนดค่าทนายความชั้นฎีกาให้”.

Share