คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2586/2525

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ผู้เสียหายตกลงขายนาพิพาทให้จำเลยแล้ว ต่อมาได้บอกเลิกการขายโดยยินยอมให้จำเลยเกี่ยวข้าวในนา และวิดน้ำจับเอาปลา ในบ่อไปได้ การที่จำเลยจับเอาปลาในบ่อที่นาพิพาทของผู้เสียหายไป จึงไม่เป็นการกระทำผิดฐานลักทรัพย์

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335 จำคุก 1 ปี ให้จำเลยที่ 1 คืนหรือใช้ราคาปลาชนิดต่าง ๆ รวม 10,000บาท แก่ผู้เสียหายด้วย ส่วนจำเลยที่ 2 ที่ 3 ให้ยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1 ด้วย โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงเป็นอันยุติตามทางนำสืบของโจทก์จำเลยว่า จำเลยที่ 1ได้วิดน้ำและจับเอาปลาในบ่อที่นาของผู้เสียหายไปจริง ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยมีว่า ผู้เสียหายยินยอมให้จำเลยที่ 1 วิดน้ำและจับเอาปลาในบ่อไปใช่หรือไม่ ในปัญหาดังกล่าวจำต้องวินิจฉัยเสียก่อนว่าผู้เสียหายเพียงแต่ให้จำเลยที่ 1 เช่านาพิพาท หรือผู้เสียหายขายนาพิพาทให้จำเลยที่ 1 แล้วต่อมาได้บอกเลิกการขายดังที่จำเลยที่ 1 นำสืบต่อสู้ ในปัญหาดังกล่าวนี้ แม้โจทก์จะมีผู้เสียหาย นายหมั่น ชูคงพะเนาพี่ชายผู้เสียหาย นางฟอง ชูคงพะเนา ภรรยาผู้เสียหาย และนายเฉลิม ดวดกระโทกน้องเขยผู้เสียหายมาเบิกความว่าผู้เสียหายเพียงแต่ให้จำเลยที่ 1 เช่านาพิพาท แต่นายสุขโถมกระโทก พยานโจทก์ตอบคำถามค้านทนายจำเลยว่า ผู้เสียหายขายนาพิพาทให้จำเลยที่ 1 ราคาแสนกว่าบาทคนในหมู่บ้านรู้กันทั่วไป ไม่ใช่เรื่องเช่านา และพระอธิการมี ฐานคโม พยานโจทก์ก็เบิกความว่าก่อนเกิดเหตุจำเลยที่ 3 เคยบอกพยานว่าจำเลยที่ 1 ซื้อนาจากผู้เสียหาย คำเบิกความของนายสุขและพระอธิการมี พยานโจทก์จึงเจือสมข้อนำสืบของจำเลยที่ต่อสู้ว่าผู้เสียหายตกลงขายนาพิพาทให้จำเลยที่ 1 ข้อเท็จจริงจึงน่าเชื่อว่าความจริงผู้เสียหายตกลงขายนาพิพาทให้จำเลยที่ 1 หาใช่ให้จำเลยที่ 1 เช่านาพิพาทไม่ พยานโจทก์ที่อ้างว่าผู้เสียหายเพียงแต่ให้จำเลยที่ 1 เช่านาพิพาทก็มีแต่ตัวผู้เสียหาย ภรรยาและญาติสนิทของผู้เสียหายไม่มีน้ำหนักให้น่าเชื่อถือ การวิดน้ำและจับปลาในบ่อตามฟ้อง จำเลยที่ 1 ก็กระทำโดยเปิดเผย นายเฉลิม ดวดกระโทก และนายยอด แตงกระโทก พยานโจทก์ก็แวะไปดูและพูดคุยกับจำเลย ทั้ง ๆ นายเฉลิมเป็นน้องเขยผู้เสียหาย และมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านท้องที่เกิดเหตุ จำเลยก็มิได้ตกใจกลัวแต่อย่างใด ก่อนที่จะทำการวิดน้ำจำเลยที่ 1 ก็บอกให้นายสุข โถมกระโทก พยานโจทก์ทราบในขณะที่ไปยืมเครื่องสูบน้ำจากนายสุขว่า จำเลยจะนำไปสูบน้ำจับปลาที่นา พฤติการณ์แห่งการกระทำที่จำเลยที่ 1 แสดงออกดังกล่าวส่อแสดงให้เห็นว่าจำเลยที่ 1 ทำการวิดน้ำและจับปลาในบ่อโดยสำนึกว่ามีสิทธิจะทำได้โดยชอบ ข้อเท็จจริงจึงน่าเชื่อตามที่จำเลยที่ 1 นำสืบว่า ในการที่ผู้เสียหายตกลงขายนาพิพาทให้กับจำเลยที่ 1 นั้นต่อมา ผู้เสียหายได้บอกเลิกการขาย โดยผู้เสียหายยินยอมให้จำเลยที่ 1 เกี่ยวข้าวในนาและวิดน้ำจับเอาปลาในบ่อไปได้ การที่จำเลยที่ 1 จับเอาปลาในบ่อที่นาของผู้เสียหายไปจึงไม่เป็นการกระทำผิดฐานลักทรัพย์ตามที่โจทก์ฟ้อง”

พิพากษายืน

Share