คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2585/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยขายที่ดินเพื่อเอาเงินชำระหนี้ซึ่งที่ดินนั้นติดจำนองอยู่ตามที่เจ้าหนี้ผู้รับจำนองเร่งรัดทวงถามให้ชำระและขายได้ราคาซึ่งเป็นจำนวนพอดีๆ ที่จะชำระหนี้จำนองเท่านั้น ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยขายที่ดินไปโดยเจตนาที่จะไม่ให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้รับชำระหนี้ตามฟ้อง จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานโกงเจ้าหนี้
จำเลยมิได้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น เมื่อศาลอุทธรณ์ เห็นว่าการกระทำของจำเลยตามที่โจทก์อุทธรณ์ขึ้นมาไม่มีความผิด ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจพิพากษายกฟ้องโจทก์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองเป็นหนี้โจทก์ตามคำพิพากษา แต่ไม่ชำระหนี้ให้โจทก์ตามคำบังคับของศาล และเพื่อมิให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ทั้งหมด ได้ร่วมกันโอนขายที่ดินและบ้านเรือนให้แก่ผู้อื่นไปขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว มีคำสั่งให้ประทับฟ้อง

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350 ให้ลงโทษจำคุกคนละสามเดือนและปรับคนละหนึ่งพันบาท โทษจำคุกให้ยก

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยทั้งสองไม่เป็นความผิดตามฟ้องแม้จำเลยทั้งสองมิได้อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ก็ยกขึ้นวินิจฉัยได้ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า จำเลยขายที่ดินตามฟ้องเพื่อเอาเงินชำระหนี้ซึ่งที่ดินนั้นติดจำนองอยู่ตามที่เจ้าหนี้ผู้รับจำนองเร่งรัดทวงถามให้ชำระ และขายได้ราคาซึ่งเป็นจำนวนพอดี ๆ ที่จะชำระหนี้จำนองเท่านั้น ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยขายที่ดินไปโดยเจตนาที่จะไม่ให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้รับชำระหนี้ตามฟ้องไม่ได้จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ แม้จำเลยจะมิได้อุทธรณ์ เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าการกระทำของจำเลยตามที่โจทก์อุทธรณ์ขึ้นมาไม่เป็นความผิด ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจพิพากษายกฟ้องโจทก์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185

พิพากษายืน

Share