แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
มติคณะรัฐมนตรีที่ให้ส่วนราชการเจ้าของสัญญาใช้ดุลพินิจต่ออายุสัญญาให้ผู้รับจ้างตามความเหมาะสมโดยไม่ต้องปรับเป็นเพียงนโยบายหรือแนวทางปฏิบัติเท่านั้นหามีผลแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อสัญญาไม่การที่โจทก์เห็นว่าไม่สมควรต่ออายุสัญญาให้จำเลยที่ 1 ยังถือไม่ได้ว่าการบอกเลิกสัญญาของโจทก์เป็นไปโดยมิชอบ
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยทิ้งงาน และโจทก์บอกเลิกสัญญาแล้วพิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ 131,950 บาท พร้อมดอกเบี้ย ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์บอกเลิกสัญญาโดยไม่ต่ออายุสัญญาจ้างให้จำเลย เป็นการขัดต่อมติคณะรัฐมนตรี เป็นการไม่ชอบ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ในปัญหาว่าจำเลยที่ 1 ทิ้งงานหรือไม่เห็นว่าในวันที่ 12 เมษายน 2517 อันเป็นวันสุดท้ายแห่งระยะคณะรัฐมนตรีดังกล่าว แต่โจทก์เห็นว่าไม่สมควรที่จะต่ออายุสัญญาให้จึงมิได้ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีนั้น ยังถือไม่ได้ว่าการบอกเลิกสัญญาของโจทก์เป็นไปโดยมิชอบ” ฯลฯ
“ส่วนค่าปรับตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม 2517 ถึงวันที่ 3 ตุลาคม 2517รวม 265 วัน ซึ่งศาลชั้นต้นกำหนดวันละ 200 บาท เป็นเงิน 53,000 บาทนั้นเป็นค่าปรับในช่วงที่จำเลยที่ 1 ทำงานไม่แล้วเสร็จบริบูรณ์ภายในกำหนดเวลาถึงวันที่ผู้รับจ้างคนใหม่ทำการก่อสร้างแล้วเสร็จ ซึ่งจำเลยที่ 1 จะต้องรับผิดตามสัญญาจ้าง จ.1 ข้อ 5 วรรคสอง ก. ค่าปรับจำนวนนี้ เมื่อพิจารณาถึงมติคณะรัฐมนตรี หมาย ล.1 ที่ให้ส่วนราชการใช้ดุลพินิจต่อสัญญาให้ตามความเหมาะสมโดยไม่ต้องปรับ อันเนื่องมาจากวัสดุก่อสร้างขาดแคลนและราคาสูง ในด้านทางได้ของโจทก์ โจทก์ได้รับประโยชน์จากการก่อสร้างอาคารราคาถูกกว่าราคาที่แท้จริง และยังได้ประโยชน์จากการที่จำเลยที่ 1 ทำงานเพิ่มเติมเช่นฉาบปูนใต้ท้องพื้นเพดานและใต้บันไดทุกชั้นโดยไม่คิดมูลค่าอีกประการหนึ่งด้วย ประโยชน์ที่โจทก์ได้รับอาจไม่เต็มจำนวนค่าเสียหายของโจทก์เพราะการก่อสร้างล่าช้าของจำเลยที่ 1 เมื่อพิเคราะห์ถึงทางได้เสียของโจทก์แล้ว ศาลฎีกาเห็นสมควรลดเบี้ยปรับจำนวนนี้ลงเหลือเพียง 5,000 บาท รวมค่าเสียหายทั้งสิ้นที่จำเลยทั้งสองต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์ 83,950 บาท ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาโจทก์ส่วนใหญ่ฟังขึ้น
พิพากษากลับ ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงิน 83,950 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้เป็นพับ”