คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2584/2520

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์เป็นผู้เช่าซื้อรถยนต์พิพาทมาและได้ให้ พ.เช่าไป วันเกิดเหตุ พ.นำรถคันดังกล่าวไปฝากไว้ในสถานที่จอดรถของภัตตาคารซึ่งจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของโดยจำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ลูกจ้างจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าหน้าที่บริการและเป็นผู้รับฝากต่อจากนั้น พ.กับพวกได้เข้าไปรับประทานอาหารในภัตตาคารดังกล่าว เมื่อกลับออกมาจะขอรับรถคืนปรากฏว่ารถถูกคนร้ายลักไป ดังนี้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องให้จำเลยรับผิดต่อโจทก์ฐานผิดสัญญาฝากทรัพย์ ซึ่งเป็นเรื่องระหว่าง พ.กับจำเลย และโจทก์มิใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์รถพิพาท ขณะเกิดเหตุรถอยู่ในความครอบครองของ พ.กรณีมิใช่จำเลยทำละเมิดต่อโจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของรถยนต์เก๋งโตโยต้าโคโรล่าคันหมายเลขทะเบียน ก.ท.ฑ.๕๓๘๕ จำเลยที่ ๑ เป็นเจ้าของภัตตาคารอาหารทะเล จำเลยที่ ๒ ที่ ๓ และที่ ๔ เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ ๑ นายประพันธ์ พัฒนจินดา ได้นำรถของโจทก์ไปฝากจำเลยทั้งสี่เพื่อเข้าไปรับประทานอาหารในร้านของจำเลยที่ ๑ จำเลยทั้งสี่รับฝากรถไว้เมื่อนายประพันธ์มาขอรถคืน จำเลยทั้งสี่ไม่สามารถคืนให้ได้โดยแจ้งว่ารถถูกคนร้ายลักไปอันเป็นมูลที่ไม่อาจอ้างได้ตามกฎหมาย การกระทำของจำเลยทั้งสี่จึงเป็นการละเมิดสิทธิและเป็นการผิดสัญญาต่อโจทก์ จึงขอให้ร่วมกันรับผิดคืนรถให้แก่โจทก์หากไม่สามารถคืนได้ก็ให้ใช้ราคา ๘๕,๗๘๐ บาท
จำเลยที่ ๑ ให้การว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง จำเลยที่ ๑ ไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ ๒ ที่ ๓ และที่ ๔ ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันคืนรถยนต์ให้แก่โจทก์หากคืนไม่ให้ก็ให้ใช้ราคา ๖๙,๐๐๐ บาท
โจทก์และจำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะไม่ใช่คู่สัญญากับจำเลย พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ขณะเกิดเหตุรถยนต์คันพิพาทยังเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทพงศ์ไพบูลย์ จำกัด โจทก์ยังชำระค่าเช่าซื้อไม่ครบ และโจทก์นำรถยนต์พิพาทไปให้นายประพันธ์ พัฒนจินดา เช่าไปขับ รถอยู่ในความครอบครองของนายประพันธ์ และวินิจฉัยว่า สัญญาระหว่างนายประพันธ์กับจำเลยเป็นเรื่องฝากทรัพย์ ซึ่งเป็นสิทธิระหว่างนายประพันธ์กับจำเลยเท่านั้นไม่เกี่ยวกับโจทก์ โจทก์จึงไม่มีสิทธิอ้างว่าจำเลยผิดสัญญาดังกล่าวต่อโจทก์ และโจทก์มิใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์รถพิพาท ขณะเกิดเหตุรถอยู่ในความครอบครองของ พ. กรณีมิใช่จำเลยทำละเมิดต่อโจทก์
พิพากษายืน

Share