แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยมีไม้สักแปรรูปเป็นกระดานแล้วจำนวน 29 แผ่น ปริมาตราเนื้อไม้ 2.65 เมตรลูกบาศก์ อันเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. ไว้ในความครอบครองเกินกว่า 0.20 เมตรลูกบาศก์ ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้จังหวัดกำแพงเพชรและจังหวัดนครสวรรค์โดยจำเลยได้นำไม้ดังกล่าวบรรทุกมาในเรือหางยาวใช้เครื่องติดท้ายของจำเลยเองล่องมาตามลำแม่น้ำปิงจากจังหวัดกำแพงเพชรมายังจังหวัดนครสวรรค์เพื่อจะนำไปยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนี้เรือของกลางซึ่งเป็นยานพาหนะนั้นย่อมได้ชื่อว่าจำเลยได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำผิด จึงเป็นของกลางที่ต้องริบตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 94 ทวิ
ฟ้องโจทก์ว่า เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยไม้สักและเรือหางยาวติดเครื่องยนต์ซึ่งเป็นยานพาหนะที่จำเลยได้ใช้ในากรกระทำความผิดหรือได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิดนั้น กับน้ำมันเบ็นซิน 1 ปีป น้ำมันเครื่อง 1 ลิตรเป็นของกลาง โดยมิได้บรรยายว่าน้ำมันของกลางนั้นได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำผิดเช่นของกลางอื่น ศาลย่อมไม่ริบน้ำมันของกลาง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยร่วมกันได้มาและมีไว้ซึ่งไม้สักแปรรูปเป็นกระดาษแล้วจำนวน ๒๙ แผ่น ปริมาตราเนื้อไม้ ๒.๖๕ เมตรลูกบาศก์ อันเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. ไว้ในความครอบครองเกินกว่า ๐.๒๐ เมตรลูกบาศก์ ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้จังหวัดกำแพงเพชรและจังหวัดนครสวรรค์โดยจำเลยได้นำไม้ดังกล่าวใส่บรรทุกมาในเรือหางยาวใช้เครื่องติดท้าย ๑ ลำซึ่งเป็นของจำเลยเอง โดยอยู่ในเรือ ๙ แผ่น อีก ๒๐ แผ่นจำเลยตีติดไว้ใต้ท้องเรือ ล่องมาตามลำแม่น้ำปิงจากจังหวัดกำแพงเพรชมายังจังหวัดนครสวรรค์ เพื่อจะนำไปยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานตามกฎหมายเจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยไม้สักและเรือหางยามติดเครื่องยนต์ซึ่งเป็นยานพาหนะที่จำเลยได้ใช้ในการกะทำความผิดหรือได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิดนั้น กับน้ำมันเบ็นซิน ๑ ปีป น้ำมั้นเครื่อง ๑ ลิตร เป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.๒๔๘๔ มาตรา ๔๘,๗๓.๗๔ (ฉบับที่ ๔)พ.ศ.๒๕๐๓ มาตรา ๑๗,๑๘ ฯลฯ กับขอให้ริบไม้สักแปรรูป เรือ และเครื่องยนต์เรือรวมทั้งน้ำมันของกลางด้วย
จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้อง ไม้ของกลางริบ แต่เรือ เครื่องยนต์และน้ำมันของกลางนั้นไม่ควรริบ เพราะความผิดฐานมีไม้สักแปรรูปย่อมเป็นความผิดสำเร็จอยู่ในตัวแล้ว ของกลางที่ใช้ในการบรรทุกมาจึงไม่ใช่อุปกรณ์ให้ได้รับผลหรือให้ได้ผลในการกระทำผิด
โจทก์อุทธรณ์ว่า ของกลางทั้งหมดเป็นที่สิ่งทีต้องริบตามกฎหมาย
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้ริบเรือ เครื่องยนต์และน้ำมันของกลางด้วย
จำเลยฎีกาขออย่าให้ริบของกลางอย่างอื่นนอกจากไม้
ศาลฎีกาเห็นว่า ในเรื่องการริบของกลางตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ มีมาตรา ๙๔ ทวิ แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.๒๔๘๔ ซึ่งเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้(ฉบับที่ ๔) พ.ศ.๒๕๐๓ มาตรา ๑๘ ว่าบรรดาเครื่องมือ เครื่องใช้ สัตว์พาหนะ ยานพาหนะหรือเครื่องจักรกลใด ๆ ซึ่งบุคคลได้ใช้ในการกระทำความผิดหรือได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิดมาตรา ๑๑,๔๘,๕๔,๖๙ ให้ริบเสียทั้งสิ้น ไม่ว่าจะมีผู้ถูกลงโทษตามคำพิพากษาหรือไม่ ดังนั้น การที่จำเลยนำไม้สักแปรรูปล่องไปตามลำแม่น้ำโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานโดยใช้เรือหางยาวติดเครื่องเป็นยานพาหนะ แม้ของกลางนี้จะไม่ได้ใช้ในการได้มาและมีไว้ซึ่งไม้แปรรูป ก็ย่อมได้ชื่อว่าจำเลยได้ใช้เรือของกลางนั้นเป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทไความผิด จึงเป็นของกลางที่ต้องริบ(อ้างฎีกาที่ ๑๕๗๔/๒๕๐๕) ส่วนน้ำมันเบ็นซินกับน้ำมันเครื่องนั้น ตามฟ้องว่าจับได้เป็นของกลาง แต่ไม่ได้บรรยายว่าน้ำมันของกลางนี้ได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำผิดเช่นของกลางอื่น จึงยังไม่ควรริบ
พิพากษาแก้ ไม่ริบน้ำมันของกลาง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามศาลอุทธรณ์