คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2572/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์มิได้ฟ้องเจ้าพนักงานที่ดินเป็นจำเลยด้วยที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้เจ้าพนักงานที่ดินแก้ทะเบียนโฉนดที่พิพาทให้ใส่ชื่อโจทก์ทั้งสองเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมกันนั้นเป็นการบังคับบุคคลที่มิได้เป็นคู่ความในคดีและโจทก์ก็สามารถจัดการในเรื่องนี้ได้อยู่เองแล้ว จึงให้ยกคำขอของโจทก์ข้อนี้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ที่ดินโฉนดเลขที่ 955 เดิมเป็นของนายไมหรือใบแล้วได้ยกให้โจทก์ทั้งสอง โดยไม่ได้โอนทะเบียน โจทก์ทั้งสองได้ครอบครองโดยสงบเปิดเผยและด้วยเจตนาเป็นเจ้าของมาเกิน 10 ปี จึงได้กรรมสิทธิ์ นายไมหรือใบถึงแก่กรรม เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2513 ต่อมาปี 2522 ศาลจังหวัดอุบลราชธานีได้มีคำสั่งให้จำเลยเป็นผู้จัดการมรดกของนายไมหรือใบ จำเลยกระทำการแบ่งปันที่ดินดังกล่าวของโจทก์ทั้งสองทั้งที่จำเลยทราบว่าที่ดินเป็นของโจทก์แล้ว เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ขอให้พิพากษาว่าที่ดินโฉนดเลขที่ 955 เป็นของโจทก์ทั้งสองให้เจ้าพนักงานทะเบียนจังหวัดทะเบียนจังหวัดอุบลราชธานี สำนักงานที่ดินจังหวัดอุบลราชธานี แก้ทะเบียนโฉนดดังกล่าวเป็นชื่อโจทก์ทั้งสองเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมกัน ให้เพิกถอนคำสั่งศาลจังหวัดอุบลราชธานีที่ได้ตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกของนายไมหรือใบ ห้ามจำเลยเข้าเกี่ยวข้องในที่ดินแปลงนี้

จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นบุตรนายพุทธา นางปุ่น นายพุทธาเป็นบุตรนายไมหรือใบ นายไมหรือใบถึงแก่กรรมโดยมิได้ทำพินัยกรรมไว้ นายพุทธาได้เข้าครอบครองที่พิพาท หลังจากนายพุทธาถึงแก่กรรม นางปุ้นมารดาได้ครอบครองต่อมาโจทก์ที่ 1 เพิ่มเข้าทำกินในที่พิพาทร่วมกับมารดาจำเลยในปี 2520 ส่วนโจทก์ที่ 2 ไม่เคยเข้าทำกินในที่ดินพิพาท จำเลยยื่นคำร้องและศาลได้มีคำสั่งตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกโดยจำเลยมีเจตนาแบ่งที่พิพาทให้ทายาทรวมทั้งโจทก์ทั้งสองด้วย ไม่มีเจตนาจะยึดเอาที่ดินเพียงคนเดียว

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟังว่า โจทก์ทั้งสองได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ ที่พิพาทจึงไม่ใช่มรดกของนายไมหรือใบ พิพากษาว่าที่ดินตามโฉนดเลขที่ 955 เป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ทั้งสอง ห้ามจำเลยเกี่ยวข้องให้เจ้าพนักงานที่ดินแก้ทะเบียนโฉนดที่พิพาทให้ใส่ชื่อโจทก์ทั้งสองเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมกัน

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยฟังข้อเท็จจริงว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์ทั้งสอง แล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่า แต่ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้เจ้าพนักงานที่ดินแก้ทะเบียนโฉนดเลขที่พิพาทให้ใส่ชื่อโจทก์ทั้งสองเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมกัน เป็นการบังคับบุคคลที่มิได้เป็นคู่ความในคดี และโจทก์ก็สามารถจัดการในเรื่องนี้ได้อยู่เองแล้ว จึงให้ยกคำขอของโจทก์ในข้อนี้

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำขอที่ให้เจ้าพนักงานที่ดินแก้ทะเบียนโฉนดที่พิพาทให้ใส่ชื่อโจทก์ทั้งสองเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมกัน นอกจากนี้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share