แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกและในฐานะส่วนตัวประมูลซื้อที่ดินพิพาทซึ่งตนถือกรรมสิทธิ์รวมอยู่ได้โดยสุจริตจากการประมูลระหว่างทายาทตามคำสั่งศาล แม้ศาลยังมิได้จัดการโอนทะเบียนมาเป็นชื่อโจทก์ก็ตาม โจทก์มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยกับพวกทายาทซึ่งเป็นเจ้าของรวมคนอื่นๆ ได้ ส่วนการวางเงินส่วนได้ของจำเลยเนื่องจากการประมูลขายทอดตลาดนั้นโจทก์จะวางก่อนหรือหลังจากที่ฟ้องขับไล่จำเลย ก็ไม่กระทบถึงอำนาจฟ้องของโจทก์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเคยฟ้องโจทก์กับพวกเพื่อขอแบ่งมรดกของนายแสงสามีโจทก์ซึ่งวายชนม์ไปแล้ว ศาลได้พิพากษาให้แบ่งที่ดิน 3 โฉนด คดีถึงที่สุดแล้วและศาลมีคำสั่งให้ขายที่ดิน 3 แปลงนั้น โดยวิธีประมูลระหว่างทายาท โจทก์ประมูลได้ที่นาโฉนดที่ 6724 ปรากฏตามสำนวนคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 262/2518ของศาลจังหวัดเพชรบุรี ที่ดินตามโฉนดนี้จึงเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์แต่ผู้เดียว ก่อนที่จำเลยจะฟ้องโจทก์ในคดีดังกล่าวจำเลยได้บุกรุกเข้าครอบครองที่นาดังกล่าวและปลูกเรือนอยู่อาศัยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากโจทก์ เมื่อโจทก์ประมูลได้ จำเลยยังไม่ยอมรื้อถอนโรงเรือนออกจากที่ดิน โจทก์บอกกล่าวแล้วก็ไม่ยอมออก ขอให้บังคับจำเลยและบริวารออกจากที่ดิน และรื้อถอนโรงเรือนสิ่งปลูกสร้างออกไปด้วย
จำเลยให้การว่า โจทก์เป็นผู้ประมูลได้ที่ดินโฉนดพิพาทจริง ปรากฏตามสำนวนคดีหมายเลขแดงที่ 262/2518 ของศาลจังหวัดเพชรบุรี ตามคำพิพากษาคดีดังกล่าวโจทก์จำเลยมีกรรมสิทธิ์ร่วมกันในที่ดินโฉนดพิพาท โดยโจทก์จำเลยมีส่วนได้ในฐานะเป็นทายาทผู้รับมรดกของนายแสง แม้โจทก์จะเป็นผู้ประมูลได้แต่ก็ยังมิได้ชำระราคาต่อศาลให้ครบถ้วน โจทก์จำเลยและจำเลยร่วมยังมิได้รับเงินส่วนแบ่งจากการขายให้เป็นที่เรียบร้อย เจ้าพนักงานที่ดินยังมิได้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดพิพาทให้เป็นของโจทก์กรรมสิทธิ์ในที่ดินยังไม่ตกเป็นของโจทก์โดยเด็ดขาดโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลย และโจทก์มิได้บอกกล่าวให้จำเลยออกไป จึงไม่มีสิทธิฟ้อง
วันนัดชี้สองสถาน จำเลยแถลงขอสละข้อต่อสู้ในเรื่องการบอกกล่าวและโจทก์จำเลยต่างแถลงขออ้างสำนวนคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 262/2518 ของศาลจังหวัดเพชรบุรีเพื่อประกอบการพิจารณา ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้แล้วให้งดการชี้สองสถานและสืบพยานแล้ววินิจฉัยว่า โจทก์เป็นผู้ประมูลซื้อทรัพย์พิพาทได้จากการประมูลของศาลระหว่างทายาท คือโจทก์ จำเลย จำเลยร่วมในคดีเดิม และได้ชำระราคาครบถ้วนแล้ว จำเลยในคดีนี้ก็เป็นโจทก์ในคดีเดิมและเข้าสู้ราคาอยู่ด้วยแต่ประมูลไม่ได้เท่านั้น การประมูลซื้อทรัพย์พิพาทของโจทก์เป็นการกระทำโดยสุจริตตามคำสั่งศาล โจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลย พิพากษาให้จำเลยและบริวารออกจากที่ดินพิพาท ให้จำเลยและบริวารรื้อถอนโรงเรือนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดออกจากที่ดิน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาที่จะพิจารณาในชั้นนี้มีว่า ขณะที่โจทก์ฟ้องคดีนี้โจทก์ยังมิได้วางเงินส่วนได้ของจำเลย ซึ่งจำนวนเงินส่วนได้ของจำเลยนี้ยังเป็นปัญหาโต้เถียงกันอยู่ แม้โจทก์จะเป็นผู้ประมูลราคาที่ดินโฉนดพิพาทได้จากศาลแต่ศาลยังมิได้จัดการโอนทะเบียนถอนชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์เดิมออก แล้วใส่ชื่อโจทก์แทน โจทก์จะมีสิทธิฟ้องจำเลยคดีนี้ได้หรือไม่ เห็นว่า ที่ดินตามโฉนดที่ 6724 นี้ โจทก์ จำเลย กับนายแม้น รุ่งอุทัย และนายเมื้อน รุ่งอุทัย เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมกันโดยมีชื่อโจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกของนายแสง รุ่งอุทัย และโจทก์ในฐานะส่วนตัวเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์เมื่อศาลสั่งให้ขายที่ดินแปลงนี้โดยประมูลราคากันในคดีเดิมนั้น โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของรวมผู้ประมูลราคาได้ย่อมมีสิทธิในที่พิพาทแต่เพียงผู้เดียว จำเลย นายแม้น และนายเมื้อนเจ้าของรวมคนอื่น ย่อมไม่มีสิทธิในที่พิพาทต่อไป โจทก์มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยผู้บุกรุกได้ ส่วนการวางเงินส่วนได้ของจำเลยนั้นโจทก์จะวาง ก่อนหรือหลังฟ้องคดีนี้ย่อมไม่กระทบถึงอำนาจฟ้องของโจทก์
พิพากษายืน