แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์กับผู้ร้องพิพาทกันเรื่องเงินที่ธนาคารออมสินส่งมาตามคำสั่งอายัดทรัพย์สินไว้ก่อนมีคำพิพากษา ในคดีที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินจากจำเลย ศาลชั้นต้นสั่งว่าโจทก์มีสิทธิ์เหนือเงินจำนวนนี้ดีกว่าผู้ร้อง ให้ยกคำร้องของผู้ร้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ศาลฎีกาพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ผู้ร้องมีสิทธิ์ในเงินจำนวนนี้ การที่โจทก์รับเงินไปจากศาลก่อนศาลฎีกาจะได้มีคำพิพากษา เท่ากับโจทก์รับเงินที่ตนไม่มีสิทธิ์ได้รับตามคำพิพากษาศาลฎีกา โจทก์จึงมีหน้าที่ต้องคืนเงินจำนวนดังกล่าว
ย่อยาว
คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องเรียกเงินจากจำเลยและธนาคารออมสินส่งเงินที่จำเลยมีสิทธิ์ได้รับจากธนาคาร ๗๔,๐๔๘ บาท ๙๙ สตางค์มาศาลแพ่งตามคำสั่งอายัดทรัพย์สินของจำเลยก่อนมีคำพิพากษา ศาลแพ่งพิพากษาให้จำเลยใช้เงิน ๗๔,๘๐๐ บาทพร้อมดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ ได้ออกหมายบังคับคดีแล้ว
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยในอีกคดีหนึ่งเป็นเงิน ๗๕,๐๐๐ บาท เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำการอายัดและยึดเงินนั้นไว้ให้ผู้ร้องแล้ว บัดนี้เกินกำหนดเวลาที่เจ้าหนี้จะขอเฉลี่ยได้ตามกฎหมาย ไม่มีเจ้าหนี้ขอเฉลี่ย ผู้ร้องจึงมีสิทธิ์ในเงินจำนวนนี้แต่ผู้เดียว โจทก์ไม่มีสิทธิ์บังคับคดีเอาเงินดังกล่าวได้
โจทก์คัดค้านขอให้ยกคำร้อง
ศาลแพ่งสั่งว่าโจทก์มีสิทธิ์เหนือเงินจำนวนนี้ดีกว่าผู้ร้อง ให้ยกคำร้องผู้ร้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผู้ร้องฎีกา ศาลฎีกาพิพากษากลับคำพิจารณาศาลอุทธรณ์เป็นว่า ให้ผู้ร้องมีสิทธิ์ในเงินจำนวนนี้ของจำเลย
ปรากฏว่า โจทก์ได้รับเงินจำนวนดังกล่าวไปจากศาลก่อนศาลฎีกาจะได้มีคำพิพากษา ศาลแพ่งอ่านคำพิพากษาฎีกาแล้วต่อมามีคำสั่งให้โจทก์นำเงินที่รับไปมาคืน โจทก์ยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนคำสั่ง ศาลแพ่งสั่งยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่โจทก์ขอรับเงินจำนวนนี้ไปก่อนคำพิพากษาถึงที่สุด และศาลชั้นต้นจ่ายเงินให้ไปโดยอาศัยผลของคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่วินิจฉัยว่าโจทก์ก็มีสิทธิ์ในเงินดังกล่าว ครั้นต่อมาศาลฎีกาพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่า ผู้ร้องมีสิทธิ์ในเงินจำนวนนี้ เท่ากับว่าโจทก์รับเงินที่ตนไม่มีสิทธิ์ได้รับตามคำพิพากษาศาลฎีกาไป โจทก์จึงมีหน้าที่ต้องคืนเงินจำนวนนี้ต่อศาล คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้โจทก์คืนเงินจำนวนนี้ชอบแล้ว
พิพากษายืน.